เมื่อวันที่ 25 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ได้เดินทางตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง หลังเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งญาติเชื่อว่านายประวิช (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านซึ่งมีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งเป็นผู้ก่อเหตุ

จากการตรวจสอบพบว่าประตูบ้านถูกปิดไว้ เมื่อเปิดดูภายในบ้านมีการทุบทำลายพังเสียหายยับเยิน ภายในห้องนอนเกิดการเผาไหม้ทั้งห้องรวมถึงข้าวของ ที่นอน ของใช้ภายในห้อง ถูกเผาเหลือเพียงเศษซากเป็นตอตะโก หลังคาถูกทุบหล่นลงมาเกลื่อน หน้าต่างในบ้านถูกทุบพังเสียหายทั้งหลัง จากการตรวจสอบแผงควบคุมไฟไม่ได้ถูกเผาไหม้แต่อย่างใด สำหรับสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากนายประวิช คลุ้มคลั่งก่อเหตุเผาบ้านตัวเองและยังไม่พบตัว

จากการสอบสวนแม่ผู้ก่อเหตุ อายุ62ปีให้การว่า เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ก็มีคนมาบอกว่ามีไฟไหม้บ้าน ตนได้ยินก็เป็นลมล้มลง เพราะตนเป็นโรคหัวใจอยู่ กินยารักษาอยู่ ก็ไม่กล้าออกมาดูเพราะรับไม่ได้ ก่อนหน้านี้ลูกชายก็มีพฤติกรรมทำลายข้าวของทุบบ้าน ทุบหน้าต่าง และทำร้ายเมียด้วย รวมถึงตนด้วย อยากให้จับไปเลย ตนก็ไม่กล้าอาศัยอยู่ และมีลูกสาวที่พิการด้วย ก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง กลัวคนรอบข้างไม่ปลอดภัยด้วย

ด้านลูกพี่ลูกน้อง เล่าว่า เมื่อคืนมีเปลวไฟลุกไหม้สูง ก่อนหน้านี้ นายประวิช เคยก่อเหตุทุบหน้าต่างบ้าน ตนเองก็ไม่กล้ามาดูเพราะกลัว ผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายแฟนสาว ขู่แม่ ใช้มีดพร้าไล่ฟันแม่ และพี่สาวที่พิการอยู่ จนต้องหนีออกไปอยู่บ้านพ่อ เหตุการณ์คลุ้มคลั่งรุนแรงก็เริ่มปีนี้ เพราะที่ผ่านมาก็ยังทำงานเลี้ยงวัวอยู่บ้างเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง มีบ้างที่กินน้ำกระท่อม แต่ก็ไม่เคยทำลายข้าวของขนาดนี้ คิดว่าที่ได้มีอาการคลุ้มคลั่งเช่นนี้ก็เพราะขาดยาเสพติด ไม่มีทางออกเหตุไม่มีเงินไปซื้อยาเสพติด แต่ก็ไม่มีประวัติทางคดีแต่อย่างใด ทางตำรวจจึงไม่สามารถจับกุมตัวได้ ส่วนปัญหาอื่นตนก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเรื่องเครียดอะไรหรือไม่ เพราะไม่ได้ใกล้ชิดอะไร