เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสภานการณ์ของแม่น้ำยม หมู่ที่ 3 บ้านวังเทโพ ต.บลวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร มีสภาพแห้งสนิท จนเห็นเนินดิน และผืนทรายในท้องแม่น้ำ ตลอดลำน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ส่งสัญญาณภัยแล้งรุนแรง นอกจากนี้ปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ ยังส่งผลกระทบกับระบบนิเวศทางธรรมชาติสัตว์น้ำ ต่างขาดน้ำตาย ส่วนเกษตรกรและประชาชน ทังสองริมฝั่งแม่น้ำ ขาดน้ำทำการเกษตรและอุปโภคบริโภค

ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำยมบริเวณท้ายเขื่อนไฮดรอลิก อ.สามง่าม พบว่าระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเห็นเพียงแอ่งน้ำหรือที่เรียกว่า “วังน้ำ” ที่พอเหลือน้ำไม่มาก ส่อเค้าสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทยปีนี้จะรุนแรงมากขึ้นกว่าที่คิด เนื่องจากแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำสายหลัก แต่กลับแห้งตั้งแต่ปลายปีและไม่มีน้ำต้นทุนในการกักเก็บแต่อย่างใด

ด้านนายทัน กันอินต๊ะ เกษตรกรในพื้นที่ กล่าวว่า แม่น้ำยมแห้งขอดลงตั้งแต่ปลายปี โดยช่วงแรกของการทำนาเห็นว่าปริมาณน้ำมาก และหลังลงมือเพาะปลูกน้ำกลับแห้ง จึงต้องเร่งสูบน้ำไปเลี้ยงต้นข้าวกว่า 7 ไร่ โดยอาศัยสูบแหล่งน้ำผิวดินในแม่น้ำยมที่เหลืออยู่ ซึ่งต้องใช้เครื่องสูบน้ำ 2 ชุด ในการสูบ 2 ต่อ เพื่อดึงน้ำขึ้นมา และมีค่าน้ำมันเพิ่มมากขึ้นเท่าตัว

อย่างไรก็ตามสำหรับแม่น้ำยมได้ไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.พิจิตร ได้แก่ สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล รวมความยาว 124 กิโลเมตร และจากสถานการณ์แม่น้ำยมที่ลดระดับลงและแห้งขอดอย่างรวดเร็ว ส่อเค้าจะส่งผลกระทบกับประชาชนและเกษตรกรที่มีพื้นที่ตอนกลางท้ายเขื่อน จะต้องรับมือสถานการณ์ภัยแล้งไปตลอดจนช่วงฤดูฝน.