เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการแถลงข่าวมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมไบเทคบางนาระหว่างวันที 25-26 ก.พ.นี้ โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และนางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี เข้าร่วม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดแก้ไขปัญหาหนึ้ครัวเรือน 8 กลุ่ม โดยเกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรม 4 กลุ่มคือหนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้กองทุนกูยืมเพื่อการศึกษา หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยหนี้สินที่น่าวิตกคือหนี้กองทุน กยศ. ที่พบว่ามีผู้เป็นหนี้ทั้งผู้กู้และผู้ค้ำประกันจำนวนถึง 6 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดจะต้องเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ย ส่วนหนี้สินที่เหลืออีก 4 กลุ่มประกอบด้วย การเข้าถึงแหล่งทุนของกลุ่ม SME กระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้ดูแล การปรับโครงสร้างหนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง หนี้สินของครู ตำรวจและส่วนราชการอื่นๆจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่อยู่ในเป้าหมายที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยมีจำนวน 95,850 ราย จำนวนนี้เป็นหนี้ กยศ. รวมก่อนและหลังถูกฟ้องศาลจำนวน 28,035 ราย และมีลูกหนี้ของสถาบันการเงินอีกจำนวน 75,015 ราย ทั้งนี้ จะมีสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว 16 แห่ง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ฯลฯ ปัจจุบันมีมูลค่าหนี้ที่อยู่ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิฯ จำนวน 4,000 ล้านบาทและกรมบังคับคดีอีกจำนวน 6,000 ล้านบาท รวมมูลค่าหนี้ประมาณ 10,000 ล้านบาท

“การไกล่เกลี่ยหนี้จำนวนหมื่นล้านบาทในครั้งนี้ จะมีการขยายเวลาชำระหนี้ ทั้งการลดเบี้ยปรับ การลดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดการขายทอดตลาด ลดค่าธรรมเนียม ไม่มีการยึดทรัพย์ ไม่ฟ้องร้อง เนื่องจากเป็นการไกล่เกลี่ยที่ถูกกฎหมายโดยจะมีการบันทึกข้อมูลการไกล่เกลี่ยเพื่อส่งให้ศาลมีคำสั่งไม่ให้บังคับคดี ดังนั้น ลูกหนี้จึงควรเข้าเจ้าหนี้เพื่อเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง” รมว.ยธ. กล่าว

ทั้งนี้ในส่วนของกรมบังคับคดีจะรับผิดชอบไกล่เกลี่ยลูกหนี้หลังคำพิพากษา ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 47,260 ราย ยอดหนี้กว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะดูแลลูกหนี้ก่อนถูกฟ้องบังคับคดีโดยใช้ พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 เป็นกลไลช่วยเหลือลูกหนี้ที่กำลังจะถูกฟ้องจำนวน 48,590 ราย มูลค่าหนี้ 4,186 ล้านบาท.