กรณีปิดล้อม 4 ชั่วโมงครึ่ง เจรจานายสุริยะ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ลูกชายผู้ป่วยจิตเวชคุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงหัวพ่อบังเกิดเกล้า อายุ 74 ปี เสียชีวิตก่อนเข้าไปขังตัวเองไว้ในบ้านพื้นที่หมู่ 11 ใกล้ตลาดนัดสี่ขีด ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่เป็นผล จนพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 8 ต้องยกเลิกแผนจับตัวเป็นเฝ้าระวังให้อาการสงบเนื่องจากไม่มีตัวประกัน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ปิดล้อมระทึก! กว่า4ชม.ยังไร้ผล ‘ทรพีปิตุฆาต’ ฉุนพ่อห้ามขุดดิน แย่งปืนจ่อยิงหัวดับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงเย็นวันที่ 1 ก.พ. หลังปิดล้อมเฝ้าระวังมานานกว่า 12 ชั่วโมง ยังไม่เป็นผล พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ได้ประชุมวางแผนร่วมกับ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ ชุดปฏิบัติการคลี่คลายคดี ได้วางแผนเข้าจับกุมอีกครั้ง โดยมีการเคลียร์พื้นที่ กันผู้ไม่เกี่ยวข้องให้ออกห่างจากที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อมืดค่ำจะมีความเสี่ยงสูง

กระทั่งเวลา 18.00 น. พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อม พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ 10 นาย พร้อมอุปกรณ์ป้องกันตัว เข้าตรึงที่บริเวณหน้าบ้านก่อนใช้แก๊สน้ำตาปาเข้าไปจุดที่นายสุริยะ นั่งขังตัวอยู่ แต่ปรากฏว่านานเกือบ 10 นาที นายสุริยะ ยังคงนั่งนิ่ง

เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้แก๊สน้ำตาปาเข้าไปอีก 1 ลูก จนควันฟุ้งกระจายเต็มห้องและนายสุริยะได้ส่งเสียงร้องออกมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษที่เตรียมจู่โจมอยู่ด้านหน้าบ้าน จึงได้ใช้คีมตัดเหล็กเปิดประตูเข้าไปและสามารถควบคุมตัวนายสุริยะได้พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 แบบลูกโม่มีปลอกกระสุน 5 ปลอกและกระสุนที่ยังไม่ยิงอีก 1 นัด ควบคุมตัวนายสุริยะ ขึ้นรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ อ.พุนพิน ระงับอาการคุ้มคลั่ง

ต่อมา พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 8 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมได้สั่งการให้สอบสวนและรวบรวมพยานทั้งหมด แจ้งข้อหานายสุริยะ ฆ่าบุพการีและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป