เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ถึงปัญหาเสือโคร่งออกทำร้ายชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงควาย บริเวณป่าบ้านห้วยสะมะท้อ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จัดชุดเฝ้าระวังเสือโคร่ง ที่อาจเข้ามาในพื้นที่ ทั้งยังประสานทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) 20 ตัว เพื่อติดตามเสือโคร่งที่อยู่ในพื้นที่ป่าดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.พ. ที่ผ่านมา 

ต่อมา จนท.ชุดป้องกันดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน ได้ออกลาดตระเวน จนพบซากควายบริเวณสามแยกสะมะท้อ ที่ได้มีการติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลภาพถ่าย จากกล้องตัวดังกล่าว ปรากฏว่าในวันที่ 6 ก.พ. พบเสือโคร่งยังไม่ทราบเพศ จำนวน 1 ตัว มีลักษณะพิการ ขาหลังด้านขวาขาดจนเกือบถึงโคนขา กำลังกินซากควาย 

ทาง มูลนิธิฟรีแลนด์ และองค์กร IUCN มีความเห็นร่วมกันว่า กรมอุยานฯ ควรเร่งดักจับเสือโคร่งตัวนี้ไปเลี้ยงดูยังสถานที่ปลอดภัย เพราะเสือพิการวิ่งไล่จับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก ประกอบการออกมาหากินใกล้พื้นที่ชุมชน เกรงว่าในอนาคตคงไม่ปลอดภัยและคงถูกตามล่าในไม่ช้า เหมือนกับที่เคยเป็นข่าวครึกโครมเกี่ยวกับนายพราน 5 นาย และซากเสือโคร่ง 2 ตัว

เบื้องต้น นายนิพนธ์ ได้ทำหนังสือประสานงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทันที เพื่อให้ดำเนินการในเรื่องช่วยเหลือเสือโคร่งพิการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากในกรมอุทยานฯ มีผู้เชี่ยวชาญด้านช่วยเหลือเสือโคร่งโดยเฉพาะ  

อย่างไรก็ตาม เสือโคร่งตัวที่พบใหม่นี้ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเสือโคร่ง ตัวที่ทำร้ายชาวบ้าน เนื่องจากนายหวานชาวบ้าน ที่ถูกเสือทำร้าย ยืนยันว่าเป็นเสือฝูง 3 ตัว และไม่พบตัวใดพิการ จึงเป็นได้ว่าเป็นเสือโคร่งตัวใหม่อีกตัว เพราะพบว่าพิการและมาเพียงลำพัง รวมทั้งการพิการ อาจจะเกิดจากขบวนการพรานล่าเสือวางบ่วงลวดสลิงรัดจนขาขาด หรือพิการด้วยเหตุอื่น.