สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่าสืบเนื่องจากกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บนเรือพิฆาตปราบโจรสลัด "มุนมู" ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นหน่วยรบพิเศษ "ช็องแฮ" 301 นาย ลอยลำเพื่อปฏิบัติภารกิจอยู่ในอ่าวเอเดน เชื่อมระหว่างเยเมน กับทะเลอาหรับ และจิบูตี ที่อยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา โดยมีการยืนยันผู้ติดเชื้อ 247 นาย จากจำนวนดังกล่าวมีผู้ป่วยอาการหนัก 12 คน นับเป็นคลัสเตอร์การแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพเกาหลีใต้
นายคิม บู-คย็อม นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันอังคาร ขอโทษประชาชนต่อการบริหารงานอันผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งไม่สามารถให้ความดูแลที่ควรจะดีกว่านี้ แก่บรรดาทหารซึ่งทุ่มเทเสียสละอย่างหนักเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่า นับจากนี้จะดูแลทหารจากเรือมุนมูชุดนี้ให้ดีที่สุด
ขณะที่ พล.อ.ซูห์ วุก รมว.กลาโหมขอองเกาหลีใต้ ขอโทษและยอมรับความผิดพลาด กรณีไม่มีทหารนายใดบนเรือมุนมูได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และมีกำหนดปฏิบัติภารกิจอยู่กลางทะเลนานถึง 8 เดือน หลังจากนี้จะมีการทบทวนนโยบายด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ก่อนส่งทหารออกไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า แผนฉีดวัคซีนกลางทะเลให้แก่ลูกเรือมุนมูมีอันต้องตกไป "ด้วยเงื่อนไขจำกัดหลายอย่าง" โดยเฉพาะการเก็บรักษาวัคซีนที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่พรรคฝ่ายค้านโต้แย้งว่า รัฐบาลสามารถประสานงานกับประเทศที่อยู่ระหว่างทางได้ เพื่อขอความช่วยเหลือ หรือเปลี่ยนตัวลูกเรือ โดยให้ทหารที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าประจำการแทน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ออกมาขอโทษด้วยตัวเอง และปลด พล.อ.ซูก์ ออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม.

เครดิตภาพ : AP