อดีตแชมป์โลกระดับตำนาน “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” ยอมรับแพ้สภาพร่างกายตนเอง แม้หัวใจจะบอกให้สู้ แต่ฝืนสังขารไม่ไหว ตัดสินใจประกาศแขวนนวมยุติบทบาทนักสู้ในวัย 43 ปี หลังพ่ายน็อกนักสู้หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสซี “แดเนียล วิลเลียมส์” วัย 28 ปี ในศึก ONE: BAD BLOOD เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา 

เดชดำรงค์ นักสู้รุ่นป๋า คืนสังเวียนพร้อมความมุ่งมั่นเพื่อคว้าชัยและขึ้นท้าชิงบัลลังก์รุ่นสตรอว์เวตที่ตนเคยครองอีกสักครั้งในชีวิต แต่ความตั้งใจก็มีอันต้องล้มเลิก เมื่อพลาดถูกคู่ต่อสู้หนุ่มซัดหมัดกระแทกตับจนร่วงลงไปกองกับพื้นในยกสองของการแข่งขันเป็นฝ่ายแพ้ไป โดยหลังจบศึกเจ้าตัวก็ออกมาประกาศว่าไฟต์นี้เป็นไฟต์สุดท้ายบนสังเวียน ONE โดยเปิดใจว่า

“เห็นได้ชัดว่าที่ผมแพ้คือสภาพร่างกายครับ เรื่องฝีมือทั้งเกมยืนเกมนอน ผมไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ในวัยนี้ ระบบการฟื้นตัวจะช้า ต่างจากเมื่อก่อน ถ้าสมัยผมหนุ่ม ๆ ถ้าโดนลูกนี้ไม่มีสะทกท้านอยู่แล้ว ผมก็เลยมานั่งคิดว่า เราคงฝืนร่างกายไปไม่ไหวแล้ว ต้องยอมรับความจริง ก็เลยประกาศแขวนนวมเลยครับ”

เดชดำรงค์ ถือเป็นเจ้าตำนานมวยไทย ดีกรีแชมป์ มวยไทยเวทีลุมพินี  3 รุ่น พร้อมประสบการณ์การชกกว่า 350 ไฟต์ และยังเป็นชาวคนไทยแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นนั่งแท่นแชมป์โลก ONE  ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานซึ่งยังไม่มีใครลบหน้าประวัติศาสตร์นี้ได้จนถึงปัจจุบัน

นับตั้งแต่ก้าวสู่เส้นทางนักสู้อาชีพตั้งแต่เขาอายุได้ 12 ปี จนถึงวันนี้ เดชดำรงค์ ได้โลดแล่นอยู่บนสังเวียนการต่อสู้เป็นเวลากว่า 30 ปี และได้สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ซึ่งน้อยคนนักจะทำได้ ซึ่งเขาถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจในอาชีพนักสู้ กว่าจะผมจะมาถึงวันนี้ ผมสู้มาตลอดจนได้เป็นทั้งแชมป์มวยไทยและแชมป์ MMA แต่สิ่งที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดคือการทำให้คนไทยได้รู้จัก MMA มากขึ้นและเปิดใจยอมรับว่ากีฬา MMA ไม่ได้จะเข้ามาทำลายมวยไทย แต่เป็นกีฬาที่ส่งเสริมให้นักมวยไทยได้มีโอกาสหรือทางเลือกในอาชีพเข้ามาอีกทางหนึ่ง”

แม้จะยุติบทบาทในฐานะนักสู้ แต่ เดชดำรงค์ ยังคงจะทำหน้าที่ครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ ประเทศสิงโปร์ต่อไปเพื่อสืบสานปณิธานในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้แก่ลูกศิษย์ทั้งชาวไทยและเทศเพื่อสร้างนักมวยไทยรุ่นใหม่ที่รู้จักและเข้าใจศาสตร์มวยไทยอย่างแท้จริง