คดีนี้เริ่มจากกรณีของชายวัย 70 ปี จากเมืองวาเลนเซีย ที่ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานานถึง 7 เดือน ด้วยอาการท้องเสียเรื้อรัง โดยที่ทีมแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุและรักษาเขาให้มีอาการดีขึ้นได้ และเสียชีวิตในที่สุด
ทีมแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยเริ่มเกิดความสงสัยเมื่อตรวจไม่พบความผิดปกติอันเนื่องมาจากอาหารเป็นพิษหรือโรคไวรัสลงกระเพาะ ซึ่งสันนิษฐานว่าจะเป็นสาเหตุของอาการป่วยในตอนแรก จึงแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สื่อท้องถิ่นของสเปนรายงานว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเกิดความสงสัยว่าคู่รักของชายผู้ป่วยอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็คืออาการของชายชราจะดีขึ้นเมื่อเขาอยู่ในห้องไอซียูซึ่งห้ามคนเข้าเยี่ยมอย่างเด็ดขาด แต่อาการของเขาจะแย่ลงเมื่อกลับมาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยทั่วไป
ญาติของชายชราติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อค้นพบว่าเงินเก็บจำนวน 75,000 ปอนด์ (ราว 3.3 ล้านบาท) ของผู้ป่วยหายไปจากบัญชีเงินฝากของเขา ต่อมาจึงพบว่าสาวใหญ่วัย 56 ปี ที่ไม่ระบุนาม คู่รักของผู้ป่วยเป็นผู้เบิกถอนเงินจำนวนนั้นออกไป นอกจากนี้เธอยังนำบัตรเครดิตและเดบิตของเขาไปใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ (ราว 1.09 ล้านบาท)
ตำรวจสเปนเข้าจับกุมหญิงคู่รักของผู้ป่วยหลังจากยึดใบเสร็จรับเงินจำนวนซึ่งมาจากการซื้อยาระบายสำหรับแก้อาการท้องผูกจากเธอได้
นอกเหนือไปจากจะโดนสอบสวนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคู่รักของเธอแล้ว ผู้ต้องสงสัยยังต้องถูกสอบสวนเกี่ยวกับกรณียักยอกทรัพย์และคดีฉ้อโกง
แม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ว่าผู้ต้องสงสัยวางยาผู้ตายได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงวานนี้ (13 ก.พ.) ถึงข้อสันนิษฐานว่าผู้ต้องสงสัยอาจลักลอบใส่ยาระบายลงในอาหารของผู้ป่วยเมื่อเธอไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้เธอยังเป็นคนห้ามครอบครัวและเพื่อน ๆ ของผู้ตายว่าไม่ให้ไปเยี่ยมเขา โดยอ้างเหตุผลเรื่องข้อจำกัดในการเยี่ยมเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด
การใช้ยาระบายเกินขนาดจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายในการทำให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังทำให้ระบบลำไส้เสียหาย และทำลายอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น ไต หัวใจและตับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
แหล่งข่าว
https://www.thesun.co.uk/news/worldnews/17641421/girlfriend-murdered-poisoning-hospital-laxatives/
https://www.mirror.co.uk/news/world-news/woman-poisoned-partner-laxatives-stole-26221453
เครดิตภาพ : Getty Images
