เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.บส.ชน.) ที่ 3 บ้านผาตั้ง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีรายงานว่า พล.ท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการ ศป.บส.ชน. นายบัญชา เชาวรินทร์ รอง ผวจ.เชียงราย พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.แม่จัน นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภาค 5 ร.อ.อนุพงษ์ เกศภาแก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ขกท.กองกำลังผาเมือง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย 1.นายฐิติพงศ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 34 ปี ชาว จ.เชียงราย 2.นายสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงราย และ 3.นายสมชาติ ขอสงวนนามสกุล อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 2,200,000 เม็ด รถยนต์ 1 คัน และ รถ จยย. 1 คัน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา สืบทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดจะขนยาบ้าจำนวนมากจากชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง และจะลักลอบขนส่งไปยังชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จึงได้วางกำลังสกัดกั้นตามจุดต่างๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ติดหมายเลขทะเบียน กท 2748 เชียงราย ขับไปยังพื้นที่ อ.เชียงแสน โดยมีรถ จยย. หมายเลขทะเบียน 1 กพ 5645 เชียงราย ขี่นำทางเข้าไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่บ้านเวียงใต้ หมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ
โดยสามารถจับกุมคนขี่รถ จยย. คนซ้อน และคนขับรถลำเลียงยาเสพติดได้ทั้งหมด จากนั้นได้ขอตรวจสอบภายในรถพบที่เบาะด้านหลังรถพบกระสอบฟางจำนวน 11 ใบ มียาบ้าใบละ 200,000 เม็ด รวมของกลางทั้งหมดประมาณ 2,200,000 เม็ด จึงจับกุมตัวทั้งหมดเอาไว้ เบื้องต้นสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มีผู้สั่งการอยู่ในต่างประเทศและใช้กลุ่มขนลำเลียงหลายชุดหลายการขนมาจากชายแดน แต่มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดได้เสียก่อน
ด้าน พล.ท.บุญยืน กล่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้มีฐานการผลิตอยู่รัฐฉานตอนใต้ของประเทศเพื่อนบ้าน และนำเข้ามาทาง อ.แม่ฟ้าหลวง โดยมีเครือข่ายชาวอาข่าเป็นคนลำเลียงด้วยกลุ่มลำเลียงไปที่ อ.เชียงแสน ส่วนผู้ขนเป็นผู้ที่เคยต้องคดียาเสพติดจำนวน 2 คน และเพิ่งพ้นโทษจำคุกออกมาก็กลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งหลังจากจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปตรวจสอบเป้าหมาย 4 เป้าในเขต จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ รวมถึงการขยายผลไปถึงเครือข่ายที่คาดว่าจะขนของกลางไปส่งต่อยังพื้นที่ภาคกลาง สำหรับยาเสพติดชุดนี้ มีมูลค่าซื้อขายที่ชายแดนประมาณ 20 ล้านบาท แต่เมื่อสามารถขนไปถึงภาคกลางจะมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท.