เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า ได้รับข้อมูลของวันที่ 20 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,049 ราย เป็นการตรวจพบในเรือนจำสีแดง 1,015 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 34 ราย มีผู้รักษาหายเพิ่ม 95 ราย รวมหายป่วยสะสม 36,615 ราย หรือ 89.7% ของผู้ติดเชื้อสะสม 40,821 ราย และยังมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,824 ราย เป็นกลุ่มสีเขียวประมาณ 81.4% เมื่อได้รับการดูแลรักษาและให้ยาฟ้าละลายโจร จะสามารถหายได้ในระยะเวลา 14 วัน ขณะที่กลุ่มสีเหลืองมี 17.9% และสีแดง 0.7% ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ทำให้อัตราการเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 47 ราย หรือ 0.1%

นายอายุตม์ กล่าวว่า วันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อแตะหลักพันครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ เกิดจากการเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุก เพื่อคัดแยกเรือนจำสีขาวที่ปลอดเชื้อและเรือนจำสีแดงที่แพร่ระบาดให้ชัดเจน โดยมีเป้าหมายหลัก คือ ลดความรุนแรงของโรค ลดจำนวนผู้ป่วยหนัก และลดอัตราการเสียชีวิต แต่จากการแพร่ระบาดของเชื้อภายนอกเรือนจำที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น กรมราชทัณฑ์ ได้ยกระดับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างเคร่งครัดนอกจากการตรวจเชื้อก่อนและกักโรคผู้ต้องขังเข้าใหม่ตามระบบแล้ว ยังป้องกันเชื้อที่อาจติดผ่านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานออกเป็นชุดๆ เพื่อให้แต่ละชุดปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นระยะเวลา 7 วันติดต่อกัน และหมุนเวียนสลับกันตามจำนวนของบุคลากรในเรือนจำแต่ละแห่ง โดยระหว่างการพักเวร ห้ามออกนอกพื้นที่หรือเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงโดยเด็ดขาด ตลอดจนมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความสะอาด การปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T และการป้องกันเชื้อโรคจากการสัมผัสสิ่งของโดยต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในทุกขั้นตอนแบบ 100%

“กรมราชทัณฑ์เชื่อมั่นว่าการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อในเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์ ยังเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในผู้ต้องขังเพื่อป้องกัน และลดความรุนแรงของโรค โดยได้ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังไปแล้ว เข็มที่ 1 จำนวน 53,554 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 51,581 ราย รวม 105,135 โด๊ส ทั้งจากที่ได้รับจากกรมควบคุมโรค วัคซีนพระราชทาน และจากแหล่งอื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานขอรับวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อเร่งฉีดแก่ผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาดในพื้นที่สีแดงก่อนจะกระจายจนครบทุกราย ตามแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว