เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง ลงพื้นที่ช่วยเหลือและให้กำลังใจ นางศุภัทรษร อาสาสะนา อายุ 54 ปี ชาวบ้านหนองกุง หมู่ 1 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ ใช้ก้อนหินทุบกระจกหน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านตัดแต่งขนสุนัข จนได้รับความเสียหายเป็นรูกว้างเกือบ 1 เมตร รวม 4 จุด มูลค่าความเสียหายประมาณ 60,000 บาท เหตุเกิดในเวลาประมาณ 23.50 น. ของวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะสามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ 3 คนในเวลาต่อมา และได้มีการไกล่เกลี่ยชำระหนี้ทั้งหมดพร้อมกับค่าเสียหาย 30,000 บาท และค่าทำขวัญอีก จำนวน 20,000 บาท โดยระหว่างการลงพื้นที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้รับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทวงหนี้นอกระบบ ซึ่งนางศุภัทรษร ได้นำดอกไม้มาขอบคุณ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ให้การช่วยเหลือ และจะไม่ไปกู้หนี้นอกระบบอีก

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพูดคุยเพื่อให้กำลังใจกับผู้ที่ถูกกระทำจากกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเกินจริง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลนั้นพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ขอนแก่น เป็นกลุ่มนายทุนจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่มีการจัดการสาขาและทำการโอนเงินให้กับผู้ร่วมขบวนการ รายละ 50,000-60,000 บาท ทำการปล่อยกู้ให้กับชาวบ้าน และคิดอัตราดอกเบี้ยกับชาวบ้านร้อยละ 2 บาทต่อวัน หรือตกเดือนละร้อยละ 60 ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน โดยกลุ่มนายทุนในระดับพื้นที่จะมาบอกชาวบ้านว่าคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 แต่เมื่อทำสัญญากู้เงินแล้ว กลับคิดดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงมาก ขณะที่ประชาชนที่ตัดสินใจกู้เงินนอกระบบ เนื่องจากเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องใช้บริการนอกระบบ แต่ไม่ได้มีการศึกษาหรืออ่านเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง อย่างไรก็ตามขณะนี้ศูนย์ปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้กับสถานีตำรวจทุกจังหวัดในภาคอีสานตรวจสอบเส้นทางเงินของนายทุน ตรวจสอบภาษีย้อนหลังและตรวจสอบด้วยว่าการให้กู้เงินเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ เพราะนอกจากจะจับกุมตัวแล้วจะมีการใช้มาตรการยึดทรัพย์และมาตรการด้านภาษีเอาผิดอย่างจริงจังด้วย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกสถานีตำรวจ จะต้องตรวจสอบข้อมูลบริษัทฯ หรือกลุ่มบุคคลใด ที่ทำการแจกใบปลิวเชิญชวนกู้เงิน ในรูปแบบต่างๆ หากพบว่ามีการแจกใบปลิวตามที่ใดๆ หรือการติดประกาศตามจุดใด ทุกใบที่พบจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตให้กู้ตามกฎหมายหรือไม่ และให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดและเข้มงวดทันที ขณะที่ลูกหนี้ที่ทำการกู้ยืมเงินมา หากต้องการความช่วยเหลือหรือเจรจาร่วมทุกฝ่ายก็ขอให้ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการเจรจาและบูรณาการร่วมทุกฝ่ายอย่างถูกต้องตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้กำหนดไว้ ในส่วนของการฟ้องกลับของนายทุนเงินกู้นั้น ในแต่ละจังหวัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละท้องที่จะมีศูนย์ปราบปรามแก๊งเงินกู้หนี้นอกระบบอยู่ โดยบูรณาการร่วมกับทางอำเภอและทางจังหวัด เมื่อมีการฟ้องกลับโดยอาศัยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สามารถเข้ามาปรึกษาทางตำรวจได้ โดยจะมีตำรวจให้คำแนะนำในด้านกฎหมายและอำนวยความสะดวก โดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมนั้น หากนายทุนเงินกู้นำไปฟ้องกลับก็ไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน

ต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางไปยังห้องประชุมควรเตชะคุปต์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการกวาดล้างและจับกุมการล่วงละมิดทางเพศต่อเด็ก ทางอินเทอร์เน็ตและการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 โดยมี พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้การพิทักษ์เด็ก สตรี และครอบครัว การป้องกันการปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง เป็นนโยบายรัฐบาลและปัญหาสำคัญระดับประเทศ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ TCAC กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้จัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันการปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) สืบทราบว่า มีบุคคลซึ่งอยู่ในประเทศไทยใด้ใช้อินเทอร์เน็ต ส่งรูปภาพ หรือสื่อลามกเด็กในระบบของอินเทอร์เน็ต อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดต่อเด็ก จึงได้ดำเนินการเพื่อคุ้มครองเด็กที่ถูกล่วงละเมิด และดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยตามกฎหมาย พร้อมนำกำลังชุดปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ TCAC เปิดปฏิบัติการจับกุมสื่อลามก อนาจาร เข้าตรวจค้นสื่อลามกอนาจารเด็ก 11 จุด ใน 7 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร เลย สกลนคร และอุดรธานี สามารถจับกุมผู้ต้องหา 7 คน และช่วยเหลือเหยื่อ 4 ราย พร้อมของกลางสื่อลามกเด็กจำนวนมาก โดยมีคดีที่น่าสนใจในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จับกุมนายวัชรากร กุลสุทธิ์ อายุ 23 ปี ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทั้งหมดจำนวน 3 ราย และได้พบของกลางเป็นคลิปวิดีโอของผู้เสียหาย และในพื้นที่อุดรธานี จับกุมนายพิมพ์รัฐกร พิมพ์ชินศรี อายุ 30 ปี ได้ก่อเหตุกระทำอานาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และได้พบของกลางเป็นภาพถ่ายของตนกับผู้เสียหาย

โดยปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมเป้าหมายสื่อลามกอนาจารเด็ก 11 จุด ใน 7 จังหวัด ได้ประสานงานกับบริษัทผู้เปิดให้บริการทางอินเทอร์เน็ต ของประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านมาทางศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กหายและเด็กถูกละเมิดแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NCMEC ) และหน่วยงานปังคับใช้ทางกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักงานตำรวจ สืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FBI และสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา ว่า มีบุคคลซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้ใช้อินเทอร์เน็ต ส่งรูปภาพ หรือ สื่อลามกเด็กในระบบของอินเทอร์เน็ต อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดต่อเด็ก จึงร้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการภายใต้กฎหมายของประเทศไทย เพื่อคุ้มครองเด็กที่ถูกล่วงละเมิด และดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยตามกฎหมาย.