จัดเป็นอีกหนึ่งสาวที่นับวันจะยิ่งสวยและเซ็กซี่มากขึ้นเรื่อยๆสำหรับนักแสดงสาว มิว ลักษณ์นารา ที่ล่าสุดเจอตัวในงานฟิตติ้งละคร ดงดอกไม้ ค่ายเช้นจ์ 2561 เจ้าตัวก็อัพเดทเรื่องเปลี่ยนลุคเป็นเซ็กซี่ของตนเอง พร้อมเผยชัดสถานะกับแฟนดีกรีหมอที่ตอนนี้เลิกรากันแล้ว

มิว เผยว่า “เรื่องลุคดูเซ็กซี่ขึ้น พยายามจะลบภาพลักษณ์นางเงือกของตัวเองตอนสมัยเด็กๆ ค่ะ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนจำมิวได้จากบทนางเงือกใช่ไหม แต่ก็อยากจะให้คนที่ติดตามมิวหรือว่าเคยดูละครมิวมาก่อนได้เห็นในอีกหลายๆ ลุค ว่าเราโตขึ้นแล้วนะ เราไม่ได้เป็นนางเงือกน่ารักๆ อย่างนั้นอีกแล้วนะ ฟีดแบ็กก็ดีนะคะ ที่เห็นได้ชัดๆ เลยก็คงจะเป็นเรื่องงาน เพราะทุกคนก็เริ่มเห็นว่าเราโตขึ้น ดูดีขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น งานมันก็เลยมีเข้ามา ส่วนเพื่อนๆ ทุกคนก็โอเค บอกว่าสวยนะ เพราะเราก็ใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เรื่องลุคที่เปลี่ยนไปทำให้โอกาสการทำงานมันเปิดขึ้นเพราะว่าผู้จัดหรือผู้ใหญ่ในวงการหลายๆ ท่านก็ยังติดภาพลักษณ์มิวในลุคนางเงือกน่ารักใสๆ อยู่ อย่างที่ได้มาเล่นดงดอกไม้ก็เป็นบทที่พลิกไปเลย ไม่มีอะไรที่เหมือนมีนานุชเลยสักอย่าง พี่ฉอดไว้ใจให้มิวมาเล่นบทนี้ก็ดีใจมากๆ นี่คือสิ่งที่มิวพยายามทำมาตลอด ให้คนเห็นว่าเรามีมุมอื่นนะ เราสามารถเล่นบทอื่นได้นะ ไม่ใช่บทน่ารักใสๆ อย่างเดียว”

“เรื่องลุคเซ็กซี่หวานใจเราเอ่อ…เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนี้ก็คงว่าไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีแฟนแล้วค่ะ โสดแล้ว ทุกคนตกใจ มิวก็ยังตกใจเหมือนกัน ที่เลิกกันไปก็เพราะเหมือนทัศนคติในหลายๆ อย่างมันไม่ตรงกัน ก่อนหน้านี้เขายังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ก็ยังฝึกงาน แต่ตอนนี้เขาทำงานเต็มตัวแล้ว เขาก็เลยโฟกัสกับตรงนั้นมากขึ้น โดยที่เราก็โฟกัสกับงานนะ แต่เราอาจจะไม่โฟกัสเท่าเขา พอคุยกันแล้วมันไม่ลงรอยกันเท่าเมื่อก่อน เลยแบบงั้นก็แยกย้ายแล้วกัน เรื่องของเวลาด้วยมันก็มีส่วนนะ เพราะเมื่อก่อนเราก็เจอกันบ่อย แต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเขาก็ทำงานเยอะมาก ก็เข้าใจ ถ้าเขาโฟกัสอย่างอื่นอยู่ก็ให้เขาไปตามทางของเขา”

มิว เล่าต่อว่า “ห่างกันนานไหมก็ไม่นาน ยังไม่ถึงเดือนเลย ประมาณ 3 อาทิตย์ได้ค่ะ ก็เฮิร์ตนะ คนมันอยู่ด้วยกันมาตลอด คบกันมาปีกว่าๆ พอคนๆหนึ่งที่เคยอยู่กับเรามาปีหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป มันก็โหวงๆ เจ็บๆ อยู่ แต่ชีวิตมันก็ต้องมูฟออนเนาะ ถามว่ารู้จักกันผ่านเกมไหม จริงๆ ก็ไม่ได้เชิงเจอกันผ่านเกมนะ เรารู้จักกัน แต่แค่ไม่เคยเจอกันเฉยๆ รู้ว่าเพื่อนเรามีเพื่อนคนนี้นะ พอมีโอกาสได้มาคุยกันตอนนั้น เราก็ได้มาเจอกัน เราเจอกันบ่อยมากเลยนะคะ ช่วงที่คบกันก็หาเวลามาเจอกันมากขึ้น ถ้าเขาไม่ว่างมิวก็ไปหา ถ้าเขาว่างเขาก็มาหา คือเราก็ปรับตัวกันมาอยู่ตลอด แต่อย่างที่บอกพอถึงจุดหนึ่งจุดโฟกัสมันคนละอย่าง เลยเป็นเหตุผลให้เราเดินกันไปคนละทางจบลงด้วยดีนะ คุยกันด้วยดี เขาก็บอกเหตุผลเราตรงๆ ว่าตอนนี้เขาโฟกัสกับอะไร เราก็เข้าใจเขาแหละ เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังมาก เราก็โอเค อยากให้เขาได้ในสิ่งที่เขาหวัง เราก็เลยแบบโอเคค่า”

“เสียดายเวลานะ เพราะมิวคบใครก็ไม่ได้กะคบเพื่อเลิก หนูก็ 27 แล้ว ไม่ได้คิดว่าเราอาจจะมีแฟนอีกสักคนสองคน มิวก็กะว่าถ้าคนนี้ใช่คนนี้โอเคก็จะอยู่กันไปยาวๆ เราอาจจะได้แต่งงานกัน เราเคยวาดความฝันไว้ด้วยกันด้วยนะ แต่จุดโฟกัสมันเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนค่ะ กลัวความรักไหม ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ว่ามันก็อาจจะกลัวการเริ่มต้นใหม่นิดหนึ่ง เพราะมันก็ค่อนข้างเหนื่อยนะกับการที่ต้องเริ่มใหม่กับใครสักคน เหมือนต้องกลับไปจุดสตาร์ตใหม่ ทั้งๆ ที่เราเดินมาครึ่งทางแล้ว ต่างคนก็ต่างทำงาน ถามว่ายังพูดคุยกันได้ไหม คือตอนนี้มิวว่าน่าจะยังไม่สะดวกที่จะเจอกัน มันยังสดไปหน่อย แต่อนาคตหลังจากนี้ก็หวังว่าเขาจะโอเค แล้วก็ได้มาพูดคุยกัน เพราะเราไม่ได้เลิกกันแบบทะเลาะกัน หรือมีมือที่สาม หวังว่าในอนาคตเราจะได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเพราะเวลามิวมีอะไรก็ชอบที่จะปรึกษาเขา เพราะว่าเขาก็เป็นคนมีเหตุผล มีตรรกะความคิดแบบคุณหมอก็จะเป็นเหตุเป็นผล การได้ฟังความคิดเห็นของเขามันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ ตอนนี้ก็คืนสเปซให้กันและกันก่อน”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม mewky.way