เมื่อวันที่ 23 ก.พ. จากกรณีกำแพงภายในหมู่บ้านเติมรัก 5 อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พังถล่มลงมา ทำให้ด้านหลังบ้านที่ติดกับนาข้าวได้รับความเสียหายรวม 6 หลังคาเรือน เมื่อเจ้าของบ้านร้องเรียน ทางโครงการอ้างว่าที่ด้านหลังซึ่งเป็นทุ่งนากว้าง ชาวนาทำนาขุดดินทำให้ฐานรากทรุดและพังลงมาต้องไปเอาเรื่องหรือฟ้องร้องกับชาวนาเอง ซึ่งต่อมา ร.ศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม และทนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุจากการถล่มของกำแพงบ้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คนอยู่หมู่บ้านหรูช้ำกำแพงรั้วโครงสร้างหลังบ้านพังยับ ไร้ผู้เหลียวแล

ความคืบหน้าเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าวพบ น.ส.ภัทรพร พนิกรณ์ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 88/32 หมู่ 9 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ที่พวกเราเจ้าของบ้านทั้ง 6 หลังรออยู่คือ แบบแปลนของบ้านและกำแพงจาก อบต.ไทรน้อย ที่เราร้องขอไปตั้งแต่เมื่อวาน แล้ววันนี้ได้มีการติดตามทวงถามแล้วก็ได้รับคำตอบว่ายังค้นไม่เจอ กำลังค้นหาอยู่ รอเพียงแบบแปลนอันนี้อันเดียว บริษัทที่เราจัดจ้างเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบให้จะได้รู้กันไปเลยว่าใครผิดใครถูก สร้างได้ตามแบบหรือไม่ ซึ่งตอนนี้พวกเราก็รอคอยอย่างมีความหวังว่าจะได้รับคำตอบเสียทีว่าใครจะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะโทษชาวนาหรือยังไง ก็ต้องรอข้อพิสูจน์ให้ได้เสียก่อนว่าผิดจริงไหม ซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ว่าใครผิดเราจะได้ดำเนินการต่อ

น.ส.ภัทรพร กล่าวอีกว่า ตอนนี้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต้องออกมากางเต็นท์นอนที่บริเวณหน้าบ้านของตนเองแล้ว เพราะกลัวอันตรายว่าหากยังนอนอยู่ในบ้าน บ้านอาจจะถล่มลงมาใส่ตอนไหนก็ไม่รู้ และก็ทำตามคำแนะนำของทาง มสท.ที่มาในวันนี้ว่า ไม่มั่นใจในโครงสร้างของบ้าน เพราะท่านก็รับประกันไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าฝนตกมาหรือดินมันสไลด์เพิ่มเติมมากกว่าเดิม ถ้าหากไม่มั่นใจในบริเวณชั้นสอง ก็ให้ลงมานอนชั้นล่าง แต่หากยังไม่อุ่นใจ ก็ออกมานอนบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งตรงที่ตนและครอบครัวมานอนก็อยู่บริเวณด้านหน้าสุดของบ้านแล้ว พร้อมวิ่งหนีทันทีหากเกิดอะไรขึ้น