สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ว่าเพียงไม่นานหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงผ่านเครือข่ายสถานีโทรทัศน์รัฐบาล เสียงระเบิดดังกึกก้อง ทำลายความเงียบช่วงรุ่งสาง ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และเสียงปืนยิงดังรัว ใกล้สนามบินชานเมืองหลวง ผสกับเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศ ดังระงมบนท้องฟ้า นายดมิตโตร คูเรบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน เผยทางทวิตเตอร์ ว่า ปูตินเพิ่งสั่งเปิดฉากบุกโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ หลายเมืองของยูเครนที่เคยเงียบสงบ ตกอยู่ภายใต้การโจมตีรุนแรง พร้อมกับย้ำว่า นี่คือสงครามรุกราน ยูเครนจะป้องกันตนเอง และจะชนะ ทั่วโลกสามารถและต้องหยุดยั้งปูติน และต้องรีบดำเนินการในทันที

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ซึ่งคาดการณ์ว่ารัสเซียจะบุกยูเครน มานานหลายสัปดาห์ กล่าวว่า เขาขอสวดมนต์เอาใจช่วยประชาชนชาวยูเครน ที่ถูกโจมตีอย่างไม่รู้ตัว และไม่ยุติธรรม จากกองกำลังทหารรัสเซีย

รัสเซียเรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยุติการขยายเครือข่ายมาทางยุโรปตะวันออก และปูตินประกาศจุดยืนซ้ำหลายครั้งว่า หากนาโตซึ่งมีสหรัฐเป็นแกนนำ รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก จะเป็นสิ่งที่รัสเซียยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ปูติน กล่าวว่า เขาตัดสินใจอนุมัติปฏิบัติการทางทหาร หลังจากรัสเซียไม่เหลือทางเลือก นอกจากต้องป้องกันตนเอง จากภัยคุกคามที่ออกมาจากยูเครนยุคใหม่ ประเทศประชาธิปไตยประชากร 44 ล้านคน พร้อมกับย้ำว่า รัสเซียไม่สามารถรู้สึกปลอดภัย ทำการพัฒนา หรือคงอยู่ได้ ด้วยภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องจากยูเครน ทุกความรับผิดชอบต่อการนองเลือดที่จะเกิดขึ้น อยู่ที่จิตสำนึกของรัฐบาลยูเครน

เบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด เกี่ยวกับขอบเขตปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดของรัสเซีย แต่ปูติน กล่าวว่า แผนปฏิบัติการจะไม่รวมการยึดครองดินแดนยูเครน และจะไม่ใช้มาตรการใดๆ ด้วยกำลัง

ปูตินกล่าวต่อที่ประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า เขาสั่งการกองทัพรัสเซีย ให้ปกป้องอย่าทำอันตรายประชาชน และเรียกร้องให้ทหารกองทัพยูเครนวางอาวุธ

ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียยิงจรวดโจมตีระบบสาธารณูปโภค และหน่วยป้องกันเขตแดนของยูเครน และได้รับรายงานเสียงระเบิดดัง ในหลายเมืองขนาดใหญ่ของประเทศ เขาได้ประกาศกฎอัยการศึกในประเทศ รวมทั้งสั่งเรียกระดมทหารกองกำลังสำรองทั้งหมด และโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีไบเดน ผู้นำสหรัฐ

จากรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า ศูนย์บัญชาการทางทหารของกองทัพยูเครน ในกรุงเคียฟ และเมืองคาร์คอฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกรัสเซียยิงจรวดโจมตี และทหารรัสเซียยกพลขึ้นบก ที่ฝั่งเมืองท่าโอเดสซา และเมืองท่ามารีอูปอล ทางภาคใต้ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ในพื้นที่ ได้ยินเสียงระเบิดดัง 3 ครั้ง เหนือเมืองมารีอูปอล

กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกยูเครน กล่าวว่า พวกเขาได้เปิดฉากบุกโจมตีเมืองชาสเตีย ทางภาคตะวันออก ที่อยู่ในการควบคุมของกองทัพยูเครน จากรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า มีเสียงระเบิดกึกก้องดังระงม ในเมืองโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก ที่พยายามแยกตัวออกจากยูเครน และไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า กลุ่มกบฏได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลรัสเซีย ให้ช่วยหยุดยั้งการรุกรานของยูเครน ซึ่งข้อกล่าวอ้างนี้สหรัฐ กล่าวว่า เป็นแผนโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย เพื่อใช้เป็นเหตุอ้างการโจมตียูเครน

หลังรายงานข่าวการโจมตียูเครนแพร่กระจายออกไป ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงดิ่งลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และราคาทองคำ พุ่งสูงสวนทาง ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้นผ่านหลัก 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลส์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557

นายโอเล็กซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เผยเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีว่า การบุกโจมตีของกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ทำให้ทหารยูเครนเสียชีวิตแล้วกว่า 40 นาย และได้รับรายงานพลเรือนยูเครนเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย และได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน

เครดิตภาพ – Reuters

เครดิตคลิป – The Quint