เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ได้แถลงข่าวความคืบหน้ากรณี น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดารานักแสดงชื่อดัง ตกเรือสปีดโบ๊ตสูญหายในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จากตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ตคันเกิดเหตุมีชื่อว่า “โคบอล 25” ทะเบียนเรือ 646700327 ขนาด 5.21 ตันกรอส ประเภทเป็นคนเดินเรือเฉพาะเขต ประเภทการใช้เป็นเรือสำราญและกีฬา เป็นเรือเร็ว บรรทุกผู้โดยสาร 8 คน โดยมีนายปภิณวิช รอดบางยาง เป็นเจ้าของเรือ และ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ เป็นผู้ควบคุมเรือขณะเกิดเหตุ จากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลประกาศนียบัตรคนประจำเรือของกรมเจ้าท่า ไม่พบชื่อในระบบฐานข้อมูลของนายปอเป็นผู้ควบคุมเรือ

เรือคันดังกล่าวได้จดทะเบียนวันที่ 28 ม.ค.64 ณ เมืองท่าพัทยา จ.ชลบุรี ใบอนุญาตหมดอายุวันที่ 27 ม.ค.65 โดยเรือคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์ สิ้นสุดการคุ้มครอง ในวันที่ 28 ม.ค.65 จากการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือลำนี้สิ้นอายุแล้ว และกรมธรรม์คุ้มครองสิ้นสุดลงด้วย แต่เนื่องจากอยู่ประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับที่ 42 จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.65 โดยได้มีประกาศกรมเจ้าท่าที่ 26/2564 กำหนดให้เจ้าของเรือนำมาต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือได้จากวันที่ พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ ได้อีก 60 วัน

นายภูริพัฒน์ กล่าวต่อว่า แต่กรณีดังกล่าว ใช้เรือเพื่อบรรทุกผู้โดยสารในวันและเวลาที่เกิดเหตุ ถือได้ว่าเป็นเรือสำหรับบรรทุกผู้โดยสาร หากไม่ได้มีการต่อทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองผู้โดยสารจะไม่ได้รับการอนุโลมตามประกาศกรมเจ้าท่าที่ 111/2564 ลงวันที่ 25 พ.ค.64 สรุปคือเรือลำนี้ใช้สำหรับโดยสารในขณะที่ใบอนุญาตใช้เรือหมดอายุแล้ว

ส่วนการเอาผิดด้านกฎหมายกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่า สาขานนทบุรี ไปดำเนินการกับเจ้าของเรือคันดังกล่าว ฐานใบอนุญาตเรือหมดอายุที่เกิดจากไม่ต่ออายุประกันภัย มีความผิดปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ขณะเดียวกันกรณีที่ผู้ควบคุมเรือไม่มีประกาศนียบัตร ทำให้ผู้ควบคุมเรือมีความผิดโทษอาญา จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ได้สั่งการให้เจ้าท่านนทบุรีดำเนินการแจ้งความคดีส่วนนี้แล้วเช่นกัน

นายภูริพัฒน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เรือสปีดโบ๊ตที่วิ่งในแม่น้ำเจ้าพระยาได้จะต้องมีใบอนุญาตขับขี่เรือ ผู้ควบคุมเรือต้องมีใบขับขี่เรือ ต้องจดทะเยียนเรือกับกรมเจ้าท่า และเรือทุกลำต้องมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือครบตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ตามกฎหมายกำหนด นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญในความปลอดภัยขณะโดยสารเรือ

เน้นย้ำผู้ควบคุมเรือแจ้งให้ผู้โดยสารสวมใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือที่มีขนาดเล็ก และดาดฟ้าเปิด เช่น เรือสปีดโบ๊ต เรือหางยาว เรือที่สามารถพลิกค่ำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง ทั้งนี้ถ้าผู้โดยสารไม่สวมชูชีพ จะเอาผิดกับคนประจำเรือฐานปล่อยละเลยผู้โดยสาร ไม่ควบคุมการบรรทุกโดยสารให้เกิดความปลอดภัย มีความผิดตามกฎหมาย อาจจะสั่งงดใช้ หรือยึดประกาศนียบัตรของผู้ควบคุมเรือได้ไม่เกิน 2 ปี นอกจากนี้เข้มงวดการบรรทุกโดยสารเกินกว่าใบอนุญาตกำหนดด้วย เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางน้ำ