เมื่อวันที่ 28 ก.พ. รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานกรรมการสถาบันอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า คดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ดาราสาวชื่อดัง มีเรื่องที่น่าสงสัยหลายประเด็น เมื่อฟังจากเพื่อนที่อยู่บนเรือให้การ แต่สิ่งสำคัญในด้านนิติวิทยาศาสตร์คือ การเก็บหลักฐานลายนิ้วมือบนเรือ และคราบปัสสาวะท้ายเรือ ที่เป็นกุญแจสำคัญว่า คุณแตงโมได้ไปปัสสาวะที่ท้ายเรือจริงอย่างที่ให้การหรือไม่

เพราะการตรวจสอบดีเอ็นเอจากคราบปัสสาวะเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ของไทยสามารถทำได้ ซึ่งตัวอย่างจากคดีในอังกฤษก็เคยเกิดเหตุลักษณะนี้ ที่มีชายคนหนึ่งก่อเหตุฆาตกรรมแล้วปัสสาวะไว้ในที่เกิดเหตุ โดยทางตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอจากคราบปัสสาวะไว้ ซึ่งอีก 10 ปี ที่ต่อมา ชายผู้นี้ได้ก่อเหตุทำร้ายหญิงชรา และปัสสาวะรดต้นไม้ เมื่อมีการพิสูจน์หลักฐานจึงพบว่า ดีเอ็นเอปัสสาวะ ตรงกับการก่อเหตุฆาตกรรมเมื่ออดีต

ส่วนประเด็นที่น่าสงสัยหลังเกิดเหตุคือ 1.บุคคลที่อยู่บนเรือเมื่อเกิดเหตุแล้ว ทำไมไม่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการสืบสวนเพื่อที่จะได้ประสานกับทีมช่วยเหลือ และเจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์ 2.ทำไมบุคคลบนเรือถึงห่างหายและไม่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจในรุ่งเช้า แต่รอให้เวลาผ่านไป 24 ชั่วโมงก่อน 3.คำให้การของเพื่อนที่อยู่บนเรือว่า คุณแตงโม ต้องการจะปัสสาวะ ถือเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เพราะคุณแตงโมเป็นดาราที่มีชื่อเสียง และมีผู้ชายที่อยู่บนเรือ ซึ่งการสวมชุดบอดี้สูทอยู่ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ ขณะเดียวกันการล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา หากปวดปัสสาวะจริง สามารถวิ่งเรือเข้าฝั่งโดยใช้เวลาไม่นาน

4.คำให้การของเพื่อนบนเรือระบุว่า คุณแตงโม เมื่อตกเรือไปแล้วสามารถเกาะเรือได้ ก่อนจะจมหายไป ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่ระบุว่า เรือกำลังวิ่ง แล้วตกลงไป เพราะในความเป็นจริงถ้าเรือกำลังวิ่งจะเป็นเรื่องยากที่จะมาเกาะเรือได้ ดังนั้นประเด็นเหล่านี้จึงถือเป็นคำให้การที่มีความขัดแย้งกันเองของผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงอยากให้ผู้ที่อยู่บนเรือในที่เกิดเหตุพูดความจริง เพราะถึงอย่างไร หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็สามารถตรวจสอบได้.