เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่อาคารมาลีนนท์ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ผู้ขับเรือสปีดโบ๊ตที่ดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา พลัดตกลงแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างล่องเรือเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ได้แก่ นายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือ แซน, น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสด หรือกระติก, นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ เดินทางมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านรายการโหนกระแส แต่มีเพียงนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท หรือเบิร์ต ผู้ที่อยู่บนเรืออีกรายที่ไม่ได้ร่วมมาออกรายการด้วย โดยภายหลังการออกอากาศ กระติก แซน และปอ ทยอยลงมาขึ้นรถตู้ที่จอดรอรับหน้าตึก มีเพียงกระติก ที่ตอบคำถามนักข่าวสั้น ๆ ว่า ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ก่อนทั้งหมดจะเดินทางออกไปทันที ขณะที่จ๊อบ ได้ลงอีกทางหนึ่งแล้วออกไปทันทีเช่นกัน

ต่อมา นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม พิธีกรรายการ ลงมาเปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้บอกว่าจะไปหาแม่แตงโม แต่ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนเรื่องพิรุธต่าง ๆ ที่พูดในรายการนั้น ตนตอบไม่ได้ เพราะต้องเป็นกลางที่สุดแล้ว เขาต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงของเขา และส่งหลักฐานมาว่าแตงโมไปนั่งปัสสาวะจริง ๆ ออกมาให้นำเสนอ ซึ่งข้อมูลนี้ พวกเขาส่งข้อมูลไปปรึกษากับบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งทีแรกคนนี้ก็แนะนำว่าอย่าไปพูดว่าแตงโมไปฉี่แล้วพลัดตกลงไป แต่ให้บอกว่าเดินไปข้างหลังเรือแล้วพลัดตกลงไป ตอนแรกก็จะเปลี่ยนคำให้การ แต่แล้วก็ไม่เปลี่ยน

มีคำถามหนึ่งที่ตนถามไปว่า แตงโมตายไปแล้ว ทั้ง 5 คนจะพูดยังไงก็ได้ พวกเขาก็บอกว่า ถ้างั้นจะแต่งเรื่องว่าแตงโมเดินพลัดตกไปก็ได้ ไม่ต้องนั่งฉี่ ส่วนประเด็นเรื่องเสื้อจ๊อบที่ขาด ก็ได้ดูแล้วพบว่าไม่มีรอยขาด ได้จับแล้วก็รู้สึกเป็นของเก่า แต่ก็ได้ถามปลายเปิดไปว่าซื้อมาใหม่เปล่า เขาก็ปฏิเสธ ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะพูดยังไง

ส่วนเรื่องการให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่สังคมจับจ้องว่าทิ้งเพื่อนนั้น ก็มองว่าเป็นเรื่องความรู้สึกคน ถ้าพูดอะไรแบบนี้ออกไปก็รับไม่ได้อยู่แล้ว แตงโมไม่มีทางจะทิ้งพวกเขาไว้ แต่การจะตอบแบบนี้ทำให้สังคมรับไม่ได้

“ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อไปยังกลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คน เขาก็บอกว่าขอพบกันก่อนเพราะอยากทราบประเด็น ตนก็ไปหา แต่บอกว่าตอนนี้บอกไม่ได้ว่าจะถามอะไรบ้าง หากต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างไรให้บอกมา แต่ต้องยอมรับว่าหลักฐานที่คุณพูดจะเป็นหลักฐานมัดตัวในชั้นสอบสวน เขาก็ยินดี แต่เราก็ติดต่อนายโรเบิร์ตไม่ได้ เขาส่งทนายความมาพบแทน เพราะคาดว่าเขาน่าจะอยู่โรงพยาบาล” หนุ่ม กรรชัย กล่าวและว่า

ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่มาก ๆ เพราะตัวเองก็เคยเล่นละครกับแตงโม ก็รู้ความเป็นไปในบ้านของเขาบ้าง เพราะตัวเองสนิทกับพ่อเขา ได้คุยกันตลอดเวลาถึงเรื่องในครอบครัว และเรื่องรถ เมื่อ 6-7 เดือนก่อน ยังเคยคุยกับเขาตอนออกรายการ ก็รู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.