จากกรณีกลุ่มเพื่อนของดาราสาว “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่อยู่บนเรือ โดยมี อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ “กระติก” เพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัว, นาย นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ “จ๊อบ”, นายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือ “โรเบิร์ต”, นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ “ไฮโซปอ” และ วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ “แซน” เดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมยัง สภ.เมืองนนทบุรี ภายหลังสอบปากคำแล้วเสร็จ “แซน” และ “จ็อบ” ได้แยกย้ายกันกลับที่พัก เหลือเพียง ไฮโซปอ, โรเบิร์ต และ กระติก ที่ยังคงสอบปากคำอยู่ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจากมีการดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติมกับทั้งสามคนหรือไม่ อย่างไรก็ตามทางตำรวจแจ้งว่า ทั้ง 3 ขอพบ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เพื่อขอขมาลาโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ไฮโซปอ, โรเบิร์ต และ กระติก ได้เข้าพบกับ นางภนิดา โดยถือพวงมาลัยเพื่อกราบไหว้ขอขมา โดยไฮโซปอ กล่าวว่า วันนี้ขอแสดงความเสียใจกับแม่จากใจ ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ชวน เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น ผมให้สัญญา ผมจะเป็นลูกชายแม่ ดูแลแม่ ไม่ให้น้อยไปกว่าที่แตงโมดูแลแม่เลย ผมให้สัญญาต่อหน้าตำรวจ ต่อหน้าสื่อมวลชน ขอให้แม่ยกโทษ และอโหสิกรรมให้ผมด้วย ก่อนที่จะยื่นพวงมาลัยกราบเท้า ก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่ และบอกว่า ขอโทษ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนที่ทางไฮโซปอจะ มอบพวงมาลัยพร้อมกับกราบไปที่มือ ตักและเท้าของคุณแม่แตงโมเพื่อเป็นการแสดงการขอขมาลาโทษ ขณะที่นางภนิดา กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ ปอได้พาแม่ไปทำบุญร่วมกันให้น้องโม สวดมนต์ด้วยกัน แม่ก็เลยคิดว่า หลังจากที่เขาพยายามติดต่อ คุณปอเป็นคนดี การพูดจาก็สุภาพ เรียบร้อย
จากนั้นทางโรเบิร์ต จะเข้ามาหาแม่ และบอกว่า รู้สึกเสียใจ เมื่อเช้าก็อยู่กับปอ และกรวดน้ำด้วยกัน อธิษฐานให้โม ให้วิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์ ผมตกใจ ไม่มีเจตนาหลบหนี หรือหลีกเลี่ยงใด ๆ ผมก็ขอดูแลแม่ ไม่ต่างจากที่ปอดูแล ถ้าแม่มีสิ่งใดเดือดร้อน ผมขอเป็นลูกคุณแม่คนนึง ผมจะดูแลแม่ ผมสัญญา ก่อนเข้าไปสวมกอดแม่ พร้อมกับร้องไห้ จากนั้นทั้งไฮโซปอ และโรเบิร์ต ได้เข้าไปกราบพี่ชายของแตงโมด้วย
จากนั้นเป็นคิวของทางผู้จัดการของแตงโม “กระติก” ปรากฏว่า คุณแม่แตงโมคืนมาลัยที่จะไหว้และหยิบไมค์ก่อนถามไปยังกระติกว่า “…ตั้งแต่เกิดเรื่อง ทำไมไม่เคยติดต่อคุณแม่เลย ไม่บอกตอนเกิดเรื่อง…” โดยกระติกตอบว่า ตอนนั้นหนูสติแตกมาก เสียใจต่อการจากไปของแตงโม เมื่อคุณแม่ถามว่า ที่ไม่บอกเพราะแม่เป็นนักดำน้ำนั้น ทางกระติกยังย้ำว่า ตัวเองสติแตกมาก ๆ สื่อสารไม่ได้ คุณแม่ภนิดาได้ถามว่า ปิดบังอะไรไว้ ทางกระติก อุทานว่า “คุณแม่” พร้อมกล่าวยืนยันว่า ได้ให้ปากคำตำรวจไปแล้ว ให้ไปถามตำรวจ เรื่องจริงคือ ชวนแตงโมไปลงเรือ ไม่มีอะไรจริงไปกว่านี้อีกแล้ว โดยยืนยันว่า แซนเป็นคนเห็นตอนแตงโมพลัดตกคนเดียวจริง ๆ อยากให้แตงโมไปเข้าฝัน เพื่ออธิบายเรื่องนี้ แต่เป็นไปไม่ได้ จึงเป็นตัวเองที่ต้องมาอธิบาย ยอมรับว่าตัวเองผิดที่ช้า ไม่กล้าพูดความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบางช่วงบางตอน ที่พูดคุยทาง “กระติก” ได้ระบุว่า หากเราเถียงกันแบบนี้ก็ไม่มีทางที่จะจบ เพราะคุณแม่ไม่เชื่อหนู ซึ่งทางคุณแม่แตงโมก็บอกว่า ไม่ได้เถียง แต่แม่อยากจะพูดความในใจอยากจะรู้ความในใจซึ่งตัวหนูจะโกหกหรือไม่โกหก ก็ว่าไปเพราะในสำนวนระบุไว้หมดแล้ว เพียงแต่คุณแม่อยากดูหน้าว่านี่น่ะหรอคนที่รักลูกสาวของคุณแม่นักหนา เป็นผู้จัดการลูกคุณแม่ ขนาดลูกคุณแม่ตายหนูยังไม่เคยไปดูศพ ทำไมวันนั้นไม่ช่วยน้องโม ทำให้ “กระติก” โต้แย้งว่า พวกเราช่วย เราได้โทรฯ หาพี่โบว์ ในคลิปก็มีว่าพวกเราวนหา เราทำสุดความสามารถเราตะโกนคำว่า “…โม…โม…โม…” จนสุดเสียง โดยพาคุณแม่ได้บอกว่าคนตกน้ำแต่คุณตะโกนจะได้ยินไหม กระติกถามกลับว่าจะให้ทำอย่างไรคุณแม่ก็บอกว่าทำไมไม่กระโดดลงไปสิ ก็ในเมื่อว่ายน้ำเป็นกัน แต่กระติกบอกว่า “…แม่หนูว่ายน้ำไม่เป็น…”
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่แม่รู้สึกสงสัยว่า ทำไมกระติกปล่อยให้ลูกสาวตกน้ำได้ จึงถามไปว่า “กระติก” เป็นผู้จัดการส่วนตัว ทำไม่ถึงไม่ดูแลลูกสาวแม่ มัวแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ ไม่รู้หรือว่าผู้จัดการต้องทำหน้าที่อย่างไร ปรากฏว่า “กระติก” กล่าวโต้ตอบว่า “…วันนั้นเราไปกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ทำงาน หากทำงานหนูก็ดูแลเขาในฐานะนักแสดง แต่วันนั้นคือเราไปเที่ยวกัน หนูก็มีสิทธิเที่ยวของหนู และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจหนูด้วย หนูอยากให้โมไปเข้าฝันแม่ แล้วอธิบายให้แม่ฟังเองนะ…” ทำให้นางภนิดา หมดคำถามที่จะพูดต่อ กระติกจึงกราบขมาและมอบมาลัยให้
จากนั้นทางกระติกได้กราบคุณแม่ แต่ทางคุณแม่ไม่รับไหว้ ก่อนที่ทางพี่ชายของแตงโมจะบอกว่า พี่จะบอกอะไรให้นะ ฟังจากที่พวกเราพูดว่าเสียใจ พวกเราเป็นเพื่อนใช่ไหม แต่นี่พี่ นี่แม่ เป็นคนในครอบครัวจะเสียใจมากกว่าพวกเราขนาดไหน เราลองคิดดูนะ คำว่าเสียใจของพวกเรา มันเท่ากับคนในครอบครัวไหม ขณะที่ นางภนิดา กล่าวว่า พร้อมให้อภัย ปอและเบิร์ต ส่วนกระติก ยังไม่ขอให้อภัย จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งทำให้กระติกเดินออกไปทันที.