ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต ลงกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หลังไปดินเนอร์ร่วมกับกลุ่มเพื่อนรวม 6 คนนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 4 ทนายความชื่อดังอย่าง ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด, ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์, ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ร่วมกันแสดงความเห็นผ่านรายการ “โหนกระแส” ดำเนินรายการโดยหนุ่ม กรรชัย เกี่ยวกับประเด็นสัญญาประกันชีวิตของแตงโม ที่มีการระบุยกให้กับ “ลูกของกระติก” นั้น
โดย ทนายตั้ม ระบุว่า คนที่จะยกเลิกคือผู้เอาประกัน แต่ต้องก่อนที่ทางฝ่ายผู้เอาประกันแสดงเจตนาเอาประกัน ซึ่งในกรณีนี้ ผู้เอาประกันเสียชีวิตไปแล้วก็ยกเลิกไม่ได้ เมื่อแสดงเจตนาว่ายกให้ใครก็ต้องเป็นคนนั้นได้รับผลประโยชน์ ส่วนที่มีการกราบของปอและโรเบิร์ต มองว่ากรณีนี้ที่มีคนวางหมากให้นั้นฉลาดพอสมควร ทั้งการกราบขอโทษ ขอโทษออกสื่อ ไปบวช พร้อมจะบวชอะไรต่างๆ เขาต้องเอาหลักฐานตรงนี้ไปช่วยบรรเทาในศาลแน่นอน เพื่อให้ลงโทษสถานเบา เงินเยียวยานั้นก็ดูว่าตกลงกับแม่ว่าอย่างไร จ่ายเป็นก้อนหรือว่าทุกเดือน ซึ่งในคดีนี้ คิดว่าน่าจะจ่ายเป็นก้อนเพราะเป็นไฮโซอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าพอกับทางครอบครัวตกลงไหม หรือหากเรียกร้องมาก ก็อาจจะจ่ายก้อนหนึ่งที่พอประมาณ แล้วไปวางต่อหน้าศาลแล้วรับสารภาพ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่รับสารภาพและชดใช้ค่าเสียหาย
ด้าน ทนายรณณรงค์ เผยว่า ก็ต้องให้กระติกไปเอาใบมรณบัตรที่คุณแม่แตงโมก่อนแล้วค่อยไปเอาเงิน 1 ล้านบาท ต้องคุยว่าต้องให้แม่ให้อภัยด้วย สำคัญตรงนี้ ส่วนผู้ชายอีก 2 คนนั้น อันนี้ถือว่าเก่งนะ ยอมให้แม่ยินยอมที่จะคุยได้ จากที่เขาไม่คุยเลย ไม่รู้ว่าไปใช้วิธีไหนมา แนะนำว่าให้คุณแม่แตงโมรับเงินเป็นก้อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปทวงถามทีหลัง
ส่วน ทนายเดชา เผยว่า เรื่องเงินประกันที่คุณแตงโมได้ทำไว้นั้นถือว่าสมบูรณ์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นบุคคลภายนอกที่สุจริตก็ทำไปแล้ว แต่ในกรณีที่ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งก็คือลูกของกระติกยังเป็นผู้เยาว์ ถ้ากระติกจะเอาเงินไปใช้ต้องไปยื่นเรื่องต่อศาลเด็กและเยาวชน ซึ่งต่อให้กระติกอยากจะเอาเงินประกันที่ได้มาไปคืนแม่นั้น ก็ยังไม่สามารถทำได้ ต้องไปร้องศาล ตอนนี้ที่ทำได้ก็ต้องเอาเงินตัวเองคืนให้แม่เท่านั้น หรือถ้าแม่ต้องการเงิน 1 ล้านทดแทน ไม่อยากยุ่งยาก ก็ไปเรียกร้องเอากับคนที่มาสมัครเป็นลูกอีก 2 คนเอาเองก็ได้
ทนายเกิดผล กล่าวว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือการชดใช้ค่าเสียหายจนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายก็เป็นอันทำให้คดีจบได้ เอาเงินไปคืนแม่แตงโมแบบนี้ ศาลไม่อนุญาตแน่นอน เพราะไม่ใช่ประโยชน์ของเด็ก ต้องอยู่ในบัญชีของลูกเท่านั้น เว้นแต่เด็กจะบรรลุนิติภาวะ หรือสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เอง..
