สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่านายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง แถลงต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ณ มหาศาลาประชาชน ที่กรุงปักกิ่ง กำหนดเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประจำปีนี้ ไว้ที่ 5.5%
เนื่องจากผลการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศบ่งชี้ไปในทางเดียวกัน ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ จะยังคงเผชิญกับความท้าทายและความเสี่ยงมากมาย โดยเฉพาะวิกฤติหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ ของบริษัท “ไชนา เอเวอร์แกรนด์” บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสองของประเทศ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจีนเชื่อมั่นว่า ภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปได้
ขณะเดียวกัน นายหลี่กล่าวถึงเป้าหมายของการขาดดุลงบประมาณปีนี้ กำหนดไว้ที่ 2.8% ของจีดีพี ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเป้าหมายของปีที่แล้ว ซึ่งกำหนดไว้ที่ 3.2% ของจีดีพี นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึง การปฏิรูปตลาดเพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรม และการป้องกันการผูกขาด ตลอดจนการสนับสนุนการเพาะปลูก และการเก็บเกี่ยวผลผลิตด้านเกษตรกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะถั่วเหลือง ธัญพืช และเมล็ดพืชน้ำมัน
อนึ่ง การประชุมเอ็นพีซีครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 6 วันครึ่ง สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากยังคงอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า สถานการณ์ของโรคที่ยืดเยื้อจะยังคงส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ ทั้งนี้ทั้งนั้น รัฐบาลปักกิ่งยืนยันเพิ่มการสนับสนุนทุกด้าน เกี่ยวกับการวิจัยด้านยาและวัคซีนโรคโควิด-19 ด้วย.
เครดิตภาพ : REUTERS
