เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ระบุถึง กรณีการตรวจสอบ ดารา-นักแสดง และ ผู้มีชื่อเสียง ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ นั้นสามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่การแสดงความคิดเห็นต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และควรคำนึงถึงความถูกต้องด้วย

พล.ต.ต.ปิยะ เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง ได้แจ้งความเอาผิดกับดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง 3 คน ในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง นั้น ทาง น.ส.ดนุภา คณาธีรกุล หรือ มิลลิ แร็พเปอร์สาว ได้เข้าพบตำรวจและเปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว ส่วนอีก 2 คน คือ นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ ต้อม ยุทธเลิศ ผู้กำกับชื่อดัง ขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ส่วน น.ส.พัชรพร จันทรประดิษฐ์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2020 ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 5 ส.ค.นี้

พล.ต.ต.ปิยะ เผยอีกว่า สำหรับความผิดของการ call out หรือการแสดงความคิดเห็น จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขึ้นอยู่กับข้อความและคำพูดของแต่ละบุคคล ส่วนแรกความผิดฐานดูหมิ่นโดยการโฆษณา ส่วนที่ 2 ข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นข้อหาลหุโทษ ยอมความกันได้ เปรียบเทียบปรับได้ตามกฎหมาย และ ส่วนที่ 3 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง บช.น.จะตรวจสอบทั้งหมด หากพบว่าบุคคลใดเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะส่งเรื่องให้ ปอท.พิจารณา หรือบุคคลใดที่เข้าข่ายความผิดดูหมิ่นฯ หรือ หมิ่นประมาทฯ ก็จะส่งให้สถานีตำรวจตามที่บุคคลนั้นมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่เป็นผู้พิจารณาดำเนินคดี

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสื่อถึง บช.น.ให้ตรวจสอบการ call out ของดารา-นักร้อง และผู้มีชื่อเสียง เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า บุคคลที่มีรายชื่อปรากฏว่ามีการกระทำตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ หากเป็นการกระทำโดยสุจริตก็ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งต้องไม่ก่อให้เกิดความมั่นคงต่อรัฐ และความวุ่นวายบ้านเมือง และไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยขณะนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ต้องรอตรวจสอบมากกว่า 25 คน มีทั้งเข้าข่ายความผิด และไม่เข้าข่ายความผิด ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการรวบรวมพยานหลักฐาน.