กลายเป็นประเด็นที่สังคมยังคงเดินหน้าหาความจริงอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวการตายปริศนาของดาราสาวสวย แตงโม นิดา ที่จากไปจากเหตุตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งล่าสุดวันนี้ (14 มี.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยังคงเดินหน้าเต็มที่ในการสืบหาเบาะแสคดีนี้

โดยได้เปิดเผยความคืบหน้าถึงคดีดังกล่าวในรายการถกไม่เถียง ทางช่อง 7 ว่า ได้มีการร่างหนังสือเตรียมส่งไปยังนาซา เพื่อขอภาพจากดาวเทียม Google Earth โดยมีการระบุช่วงระยะเวลา และพิกัดที่เกิดเหตุ และที่ผ่านมา มีการขอภาพจากกล้องวงจรปิดมาเยอะมาก ทั้งภาพขาไป ขากลับ เหลือเพียงการเรียบเรียงไทม์ไลน์ เสียดายที่มีกล้องตัวนึงที่เสียไป ก่อนที่จะไปขอเพียงไม่กี่วัน ไม่งั้นคงเห็นไปแล้ว วันนี้ก็ได้มีการไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ แต่เสียดายว่าไปช้าไป ระบบได้มีการบันทึกซ้ำไปแล้ว เดิมทีได้กล้องจากท่าเรือตรงข้าม กฟผ.มาแล้ว ซึ่งตรงจุดนั้นเห็นมีคนยืนโอบกันส่วนหน้าของเรือ แต่ไม่มีคนอยู่ท้ายเรือ ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ซึ่งเรือก็แล่นไปอย่างชิลชิล ตามปกติ หลังจากนั้น เรือก็วนกลับมาในช่วงเวลาที่มีการแจ้งว่า แตงโมตกเรือไปแล้ว ซึ่งการขับเรือช่วงนั้น เป็นแบบขับวนไปวนมาโค้งหักศอก เหมือนกับการฝึกขับเรือมากกว่า

เต้ มงคลกิตติ์ เผยว่า “จากที่เห็นสภาพศพ สันนิษฐานว่า แตงโม น่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่า เพราะบริเวณศีรษะมีร่องรอยเหมือนถูกทุบ คิดว่าเรือที่ตำรวจอายัดอาจจะไม่ใช่เรือลำที่เกิดเหตุ มันเป็นสมมุติฐานของเรา ผมจึงร้องไปถึงนายกฯ ให้สั่งกรมเจ้าท่าอายัดเรือยี่ห้อโคบอลต์ทุกลำ เพื่อทำการตรวจสอบ เพราะในประเทศไทย มันมีแค่ไม่กี่ลำ พร้อมฉายแสงตรวจสอบคราบเลือดบนเรือ เรามีสิทธิถามทุกอย่างที่อยู่ในสำนวน สำนวนอะไรก็ตาม มันไม่ใช่ความลับหรอก ต้องมีการชี้แจงให้สังคมสิ้นกระบวนการสงสัย ไม่งั้นตำรวจจะน่าสงสัยซะเอง ทั้งนี้ ผมได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษก ตร. ท่านยืนยันว่า ทาง ผบ.ตร. ไม่รู้จักกับพ่อของ แซน วิศาพัช”

ฟาก รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว พูดถึงกรณีการตรวจสอบเรือลำที่เกิดเหตุว่า “หากมีการเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดจริง เราสามารถใช้สารเคมีตรวจสอบดูได้ ส่วนเรื่องที่ผลชันสูตรออกมาว่าบาดแผลที่ขาแตงโม เกิดก่อนการเสียชีวิตนั้น มีการพบเลือดแทรกอยู่ตามเนื้อเยื่อ และไม่ได้โดนเส้นเลือดแดงใหญ่ ทำให้ตีความออกไปได้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการจมน้ำ สำหรับบาดแผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิต สามารถตีความสถานที่เกิดเหตุได้ 2 ที่ คือ บนเรือ และ ในน้ำ แต่เมื่อมีการตรวจสอบบนเรือแล้วไม่มีคราบเลือดบนเรือ ก็ต้องมามองที่ในน้ำ ซึ่งก็ต้องหาว่าสาเหตุของบาดแผลเกิดจากอะไร จากใบพัดเรือ ฟินเรือ หรือเกิดจากอย่างอื่น”

“งานนี้ต้องมาดูว่าบาดแผลเกิดจากอะไร กรณีนี้คือต้องสืบจากศพ ซึ่งจะบอกได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่ประเด็นคือ เราไม่ทราบว่าในขณะที่ตกจากเรือ ตกในลักษณะท่าทางแบบไหน ท่าตกในท่าแนวนอนระนาบ แผลต้องมีลักษณะเป็นบั้งๆ แต่หากตกในแนวตั้ง ก็อาจจะเป็นไปได้ที่มีแค่แผลเดียว เพราะฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับท่าทาง ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้ แต่อยากให้เริ่มต้นจากการรอผลว่า บาดแผลนั้นเกิดขึ้นจากวัตถุใด และหากครอบครัวยังคาใจกับผลการชันสูตรครั้งแรก ในการผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 นั้น หากสภาพศพจากการผ่าครั้งแรก มีการรักษาสภาพให้ใกล้เคียงกับครั้งแรกที่เจอมากที่สุด ก็เชื่อว่าศพนั้นยังพอที่จะสามารถดำเนินการได้ใกล้เคียงกับตอนแรก”