นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จึงได้นำเทคโนโลยี เช่น ไอโอทีและเอไอ มาใช้วางแผนการขนส่งต่อเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการนำรถยนต์ไฟฟ้าหรือ อีวี มาวิ่งในบางเส้นทาง ที่ระยะไม่ไกลมาก และนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาให้บุรุษไปรษณีย์ใช้งาน เพื่อควบคุมต้นทุน และลดผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจากราคาน้้ำมัน โดยปัจจุบัน ปณท มีการขนส่งอยู่ประมาณ 10 ล้านเที่ยวต่อปี
“ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทุกคนได้รับผลกระทบหมด ไม่ใช่เฉพาะไปรษณีย์ไทย เราได้มีการวางแผนให้กระทบน้อยที่สุด โดยในปีนี้จะมีการนำรถไฟฟ้ามาใช้งาน 250 คัน ตามเส้นทางที่ไม่ไกลมาก เนื่องจากปัจจุบันเรื่อง สถานีชาร์จ อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และใช้เวลาชาร์จต่อครั้งเป็นชั่วโมง อาจจะส่งผลให้การขนส่งทำได้ช้าลง จึงต้องมีการบริหารจัดการเส้นทางให้ดีที่สุด”
นายดนันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ก็มีแผนหารายได้จากช่องทางอื่นๆ มาชดเชย เช่น การขยายไปธุรกิจรีเทลเพิ่มขึ้น โดยให้บุรุษไปรษณีย์ กว่า 20,000 คน ที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทยในทุกพื้นที่ นำสินค้าและบริการต่างๆ ไปขายให้กับคนในพื้นที่มากขึ้น เช่น สินค้าโอทอป สินค้าและบริการต่างๆ ของค่ายมือถือ ฯลฯ โดย ทาง ปณท ก็จะมีการเพิ่มทักษะอบรมในเรื่องดังกล่าวให้บุรุษไปรษณีย์ ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าดังกล่าวสามารถทำรายได้ให้กับ ปณท ถึงปีละ 400 ล้านบาท รวมถึงการนำโซลูชั่นต่างๆ มาให้บริการ เช่น บุรุษไปรษณีย์สำรวจ และตรวจสภาพของทรัพย์สินรอการขายให้สถาบันการเงิน ฯลฯ

ล่าสุดได้ร่วมกับ สถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพันธมิตร คือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนชุดความรู้และสื่อประชาสัมพันธ์ และโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ ของ SCG จัดทำแคมเปญเพื่อนแท้ร่วมทางโรด เซฟตี้ เพื่ออบรมเรื่องการขับขี่ปลอดภัยให้บุรุษไปรษณีย์ เพื่อนำไปถ่ายทอด ต่อให้กลุ่มเป้าหมายอีก 2 แสนคน ภายในปี 2565 เพื่อให้สังคมไทย ตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนไปด้วยกัน
โดย ใน64 ที่ผ่านมาพบว่ามีสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่บุรุษไปรษณีย์เป็นฝ่ายผิดเพียง 0.13% มีจำนวนใบสั่งที่ได้รับ จำนวน 2,720 ใบ โดยมีเป้าหมายในการลดการเกิดอุบัติเหตุลงอีกมากกว่า 50% ในปี 65 นี้
ด้าน ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล Chief Brand Officer จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยเป็นเพื่อนแท้ร่วมทาง ที่มีความคุ้นเคย ใกล้ชิดกับคนไทยมายาวนาน เข้าถึงทุกพื้นที่ผ่านบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คน เป็นเครือข่ายที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทย สามารถพูดคุยในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเป็นกันเอง
ซึ่งทาง สถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปรษณีย์ไทย เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงร่วมกันจัดทำแคมเปญเพื่อนแท้ร่วมทาง Road Safety โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัยให้แก่บุรุษไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยมุ่งหวังให้บุรุษไปรษณีย์เป็นต้นแบบการขับขี่ปลอดภัย และถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อให้กับผู้ขับขี่จักรยานยนต์อื่นๆ รวมทั้งบุคคลรอบตัวให้ร่วมกันตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน

ด้าน รศ.ดร.มาโนช โลหเตปานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน (ThaiRSC) พบว่าในปี 64 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 13,624 คน และมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 883,197 คน ซึ่งอุบัติเหตุเหล่านี้เกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือ คน ยานพาหนะ และสภาพแวดล้อม จึงได้มีการทำแคมเปญ ร่วมกับไปรษณีย์ไทย เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ปลอดภัยให้แก่บุรุษไปรษณีย์ ในรูปแบบการอบรมออนไลน์ ซึ่งได้พัฒนาหลักสูตรร่วมกับโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ ของ SCG
โดยบุรุษไปรษณีย์สามารถเข้าอบรมออนไลน์ได้ผ่านแพลตฟอร์ม CU NEURON ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังให้การสนับสนุนจัดทำคลิปวิดีโอให้ความรู้เพื่อการขับขี่และใช้ยานพาหนะบนท้องถนนอย่างปลอดภัยอีกด้วย และในอนาคตเตรียมขยายความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย.