เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นายเอกชัย ชนภักดี พ่อของ นายพัดยศ ชนภักดี หรือน้องเปรม นักศึกษาปวศ. ชั้นปีที่ 1 สาขาวิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่ทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งวันนี้ครอบครัวได้นำร่างของน้องเปรม จาก รพ.ค่ายสุรนารี มาให้แพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ชันสูตรศพ หลัง รพ.ค่ายสุรนารีไม่มีห้องความดันลบ และไม่สามารถผ่าชันสูตรน้องเปรมที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา จึงส่งร่างน้องมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ

นายเอกชัย ชนภักดี พ่อของน้องเปรม กล่าวว่า ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกว่าเกิดจากการรับน้องของรุ่นพี่แต่ตนเองยังติดใจถึงการเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ยังไม่เห็นสภาพศพหรือบาดแผลของลูก จึงขอให้แพทย์ชันสูตรศพก่อน

“ลูกชายเป็นคนแข็งแรง ชอบเล่นฟุตบอล ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เคยเล่าเรื่องราวที่มหาวิทยาลัยให้ฟัง แต่ก็ทราบว่ามีความสุขที่ได้เรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยตนเองเคยขอให้ลูกชายเรียนที่บ้าน เพราะไม่อยากให้ลูกไปอยู่หอพักคนเดียว แต่ลูกก็ไม่ยอม ส่วนที่มหาวิทยาลัยชี้แจงว่าไม่ทราบเรื่องกิจกรรมรับน้องดังกล่าว ตนเองมองว่ายังไม่ชัดเจนเพียงพอ พร้อมยืนยันจะไม่ยกโทษให้กับกลุ่มคนที่ทำร้ายลูก และเชื่อว่ามีกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุมากกว่า 6 คน ทั้งนี้ขอให้ลูกชายตนเองเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของกิจกรรมรับน้องโหดลักษณะนี้ ส่วนประเด็นที่ลูกชายกำลังจะมีหลานให้ตนเองอุ้มนั้น ก็เพิ่งทราบ แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับแฟนสาวของลูกชาย” นายเอกชัย กล่าว

ด้าน ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา กล่าวว่า ตั้งแต่ทราบเรื่อง ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ความช่วยเหลือครอบครัว โดยยินดีจะชดใช้และออกค่าใช้จ่ายต่างๆให้ ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจอยู่ระหว่างการเชิญตัวนักศึกษารุ่นพี่ 6-7 คนที่อยู่ในเหตุการณ์รับน้องไปสอบปากคำ ซึ่งจะมีการตั้งข้อหาหรือไม่ยังไม่ทราบในรายละเอียดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่หากตำรวจระบุว่ามีความผิด ทางมหาวิทยาลัยก็มีมาตรการลงโทษสูงสุดคือไล่ออก ซึ่งกรณีก็ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และพยานหลักฐาน เพราะปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวน และกลุ่มรุ่นพี่ยังมีสถานะเป็นนักศึกษา

“สำหรับเหตุการณ์วันดังกล่าว ทราบว่าเกิดขึ้นระหว่างคืนวันที่ 13-14 มี.ค. โดยเป็นกิจกรรมที่กลุ่มรุ่นพี่แอบจัดขึ้นไม่ได้แจ้งกับทางมหาวิทยาลัย และเลือกสถานที่ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งกิจกรรมแบ่งเป็นฐาน มีการร้องเพลง และมีบทลงโทษคือการต่อยเข้าที่ท้องของน้องเปรม ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์ตนเองยังไม่ได้สอบถามแน่ชัด ส่วนที่มีข่าวว่ามหาวิทยาลัยเคยจัดกิจกรรมรับน้องจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าในขณะที่ตนเองมาดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ น้องเปรมเป็นเคสแรกที่เกิดขึ้น” ผศ.ณรงค์ กล่าว

ไม่ใช่แค่5!เพื่อน ‘น้องเปรม’ แฉเหยื่อถูก30รุ่นพี่โหด ต่อยอกทีละคน

อย่างไรก็ตามสำหรับขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพที่พบว่ามีเชื้อโควิด-19อยู่ในร่างกาย แบ่งได้เป็น 2 กรณีคือกรณีที่ 1 ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ขั้นตอนต้องบรรจุศพอยู่ในถุงซิปล็อก 3 ชั้นเมื่อถูกส่งมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการถ่ายรูปร่างผู้เสียชีวิตจากนั้นถอดเสื้อผ้านำเข้าเครื่องสแกนเพื่อทำการชันสูตรผ่านเครื่องระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สัมผัสตัวผู้ติดเชื้อ

ส่วนกรณีผู้ที่เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ หรือสงสัยว่าจะมีการฆาตกรรม เจ้าหน้าที่จะพิจาณาเป็นกรณีไป หากจำเป็นต้องผ่าชันสูตร เจ้าหน้าที่ต้องนำเข้าห้องความดันลบ โดยสวมชุดพีพีอี ป้องกันเชื้อ ซึ่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีความพร้อมทั้งบุคลากร​และอุปกรณ์ การชันสูตรฯ เพื่อส่งผลตรวจกลับไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รับไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป.