นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) หน่วยงานใต้สังกัดกระทรวงฯ เริ่มนำร่องการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบการของผู้ค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจฐานราก ยกระดับสู่รูปแบบ “ตลาดสดยุควิถีใหม่” เข้าถึงการใช้นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ รวมถึงพัฒนาไปสู่การแข่งขันรูปแบบใหม่ ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นำร่องไปแล้วใน 10 จังหวัด ครอบคลุมตลาดสดประมาณ 300 แห่ง มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 30,000 ราย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 300 ล้านบาท
“ดีป้า มีแผนต่อยอดโครงการนี้ให้เข้าถึงผู้ประกอบการร้านค้าอีก 65,000 ราย พร้อมทั้งสร้างตลาดต้นแบบด้านดิจิทัลเพิ่มเติม 25 จังหวัด โดยขยายจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคกลางบางจังหวัด ให้ครอบคลุมพื้นที่ในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านการบริหารจัดการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย หาบเร่ แผงลอย ประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการขายและจัดส่งสินค้า ตอบรับเทรนด์สังคมไร้เงินสด พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายเนวินธุ์ กล่าว

ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า โครงการ Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่ สามารถผลักดันพ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตั้งแต่การคัดเลือกดิจิทัลสตาร์ทอัพ และผู้ให้บริการดิจิทัลสัญชาติไทย ครอบคลุม 6 กลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการซื้อขายออนไลน์ การจัดอบรมหลักสูตรออนไลน์ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ และการลงพื้นที่จัดกิจกรรมตลาดต้นแบบในพื้นที่เป้าหมาย เป็นต้น
สำหรับการจัดงาน “Transform Market Showcase 2022” ยกระดับตลาดสดสู่ยุควิถีใหม่ เป็นการประกาศความสำเร็จของโครงการ “Transform ตลาดสดยุควิถีใหม่” ที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและนำร้านค้าเข้าแพลตฟอร์มช่องทางการจำหน่ายและจัดส่งสินค้า ผ่านการจับคู่ธุรกิจกับดิจิทัลสตาร์ทอัพสัญชาติไทย และผู้ให้บริการดิจิทัล จำนวน 28 ราย โดยในโครงการนำร่อง 10 จังหวัด ที่ดำเนินการไปแล้ว มีสินค้าจำหน่ายมากกว่า 150,000 รายการ

โดยรูปแบบพื้นที่ตั้งร้านค้าที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ตลาดนัด ตลาดสด และหาบเร่/แผงลอย ร้านค้าริมทาง สำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย ระบบชำระเงินออนไลน์ (E–payment) ระบบบริการ (Service) และระบบการสั่งอาหารหรือสินค้า (Delivery) ขณะที่การจัดอบรมหลักสูตรออนไลน์ จำนวน 5 หลักสูตร ผ่าน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ YouTube, Facebook Group, Classwin และ Digital Skill ซึ่งเปิดระบบตั้งแต่เดือนสิงหาคม 64 ถึงปัจจุบัน มีผู้เข้าร่วมอบรมมากกว่า 1,000,000 คน