เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการหลอกลวงเอาทรัพย์สินในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ จากกรณีที่ เพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 2” และสื่อสังคมออนไลน์ได้นำมาเผยแพร่ต่อ โดยมีข้อความเกี่ยวกับ “ตั๋วผู้กำกับทิพย์” โดยระบุว่า มีการตกลงจ่ายเงินเพื่อแลกกับตำแหน่งที่ต้องการในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2564 ว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นภรรยาของข้าราชการตำรวจที่ได้รับความเสียหาย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ดำเนินการประสานทำการรับโอนคดีจาก สภ.กู่แก้ว ภ.จว.อุดรธานี มาให้กองบังคับการปราบปรามเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการ โดยผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับขบวนการหลอกลวงไว้แล้วในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นและความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พนักงานสอบสวนฯ ได้ทำการรับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ทำการสอบปากคำพยาน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และเสนอผู้บังคับบัญชา กองบังคับการปราบปราม เพื่อพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. มีการกำชับเกี่ยวกับการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกวาระประจำปี ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและระบบคุณธรรมมาโดยตลอด พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบมีข้าราชการตำรวจไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า เพื่อดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากพบมีข้าราชการตำรวจไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิด ให้ดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าในการประชุม ก.ตร. ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติ ไล่ออก ปลดออก พร้อมดำเนินคดีกับข้าราชตำรวจที่กระทำความผิดทั้งวินัยและอาญามาโดยตลอด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ด้วยความรวดเร็ว ตรงไปตรงมา หากพบมีการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย ทั้งทางอาญาและทางวินัย อย่างเด็ดขาด ไม่มีปล่อยไว้

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสใดๆ สามารถแจ้ง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วนจราจร 1197 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.