เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม น.ส.รัชฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 445/2565 ลง 11 มี.ค. 64 ฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถการกีฬาแห่งประเทศไทย แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 65 เวลาประมาณ 19.00 น.

สำหรับพฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน ก.พ. 64 ผู้ต้องหากับพวกมีการกระทำลักษณะโทรศัพท์สุ่มไปยังผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นฝ่ายประกันภัยของบริษัทประกันภัยรถยนต์ชื่อดังหลายแห่ง โดยเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ล่วงหน้าก่อนที่กรมธรรม์ปัจจุบันจะหมดอายุ โดยมีสิทธิพิเศษให้สามารถผ่อนชำระได้โดยไม่เสียดอกเบี้ย เมื่อผู้เสียหายสนใจข้อเสนอดังกล่าวจึงตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทนำเอกสารการซื้อกรมธรรม์และการรับชำระเงินส่งไปยังที่อยู่ของผู้ซื้อ ตรวจสอบใบเสร็จรับเงินได้ระบุชื่อบริษัทชัดเจน พร้อมรายละเอียดการทำกรมธรรม์ล่วงหน้ารถยนต์ของผู้เสียหาย เมื่อถึงระยะเวลาที่กรมธรรม์มีผลบังคับใช้กับรถยนต์ที่ผู้เสียหายเอากรมธรรม์ ได้เกิดประสบอุบัติเหตุ

ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปยังบริษัทประกันภัยรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าไม่มีข้อมูลกรมธรรม์ของผู้เสียหายและรถยนต์คันที่ผู้เสียหายเอาประกันภัยไว้ ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปยังบริษัท ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงแน่แล้ว จึงได้รวบรวมพวกผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ซึ่งพวกผู้เสียหายกว่า 60 ราย ได้รับความเสียหายเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยชื่อดัง พบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยของตน และไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนักศึกษาของสถาบันแห่งหนึ่ง และนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม บก.ปอศ. ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายที่หลอกลวงเหยื่อในหลายลักษณะ อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีผู้มาเสนอตัวเป็นนายหน้าประกันภัย ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจกำลังถูกหลอก ควรตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกันภัยก่อน.