สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่ากองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ออกแถลงการณ์ ว่าหากรัฐบาลอิรักยังคงเพิกเฉย กับการดำเนินการด้วยตัวเอง เพื่อจัดการกับ “ฐานทัพของรัฐไซออนิสต์” ที่อยู่ในประเทศของตัวเอง แล้วความมั่นคงของอิหร่านยังคงถูกคุมคามอยู่เช่นนี้ ไออาร์จีซีไม่ลังเลที่จะปฏิบัติการตอบโต้ตามความเหมาะสม


ทั้งนี้ ไออาร์จีซีเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว หลังเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ออกมายืนยันว่า เป็นผู้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 12 ลูก โจมตี “ฐานทัพของรัฐไซออนิสต์” ซึ่งหมายถึงอิสราเอล ตั้งอยู่ที่เมืองเออร์บิล เมืองเอกของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ในภาคเหนือของอิรัก และขีปนาวุธบางลูกตกใกล้กับ อาคารสถานกงสุลใหญ่สหรัฐประจำเมืองเออร์บิลด้วย


ขณะที่ พล.อ.เคนเนธ แมคเคนซี ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของสหรัฐ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลานานกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ไออาร์จีซีโจมตีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางทหารของสหรัฐหลายแห่ง เคราะห์ดีที่ฝ่ายปฏิบัติการภาคสนามสามารถสกัดกั้น “ภยันตรายเหล่านั้นได้” มิเช่นนั้น “สถานการณ์ปัจจุบันอาจแตกต่างจากนี้มาก”


เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่ส่อเค้าทวีความตึงเครียด พล.อ.แมคเคนซี กล่าวว่า มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะยกระดับการตอบโต้กัน แล้วสมรภูมิอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในซีเรีย ซึ่งสหรัฐมีความวิตกกังวลตรงจุดนี้ ด้านรัฐบาลอิรักและอิสราเอล ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ.

เครดิตภาพ : REUTERS