สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ว่าบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐและไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีออกแถลงการณ์ เมื่อวันศุกร์ ว่ารัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซื้อวัคซีน "โคเมอร์เนตี" ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เพิ่มอีก 200 ล้านโด๊ส พร้อมเงื่อนไขว่า รัฐบาลของไบเดนจะได้รับสิทธิล่วงหน้า ในการสั่งซื้อวัคซีนรุ่นต่อไปของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ที่จะมีการพัฒนาให้ทันกับเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ข้อตกลงสั่งซื้อดังกล่าวเพิ่มจำนวนวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ที่รัฐบาลสหรัฐสั่งซื้อเพื่อใช้งานในประเทศเป็นอย่างน้อย 500 ล้านโด๊ส จากจำนวนดังกล่าวมีการส่งมอบแล้ว 208 ล้านโด๊ส โดยข้อตกลงนี้เป็นไปตามการลงนามเมื่อปีที่แล้ว ในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ล่วงหน้า 100 ล้านโด๊ส ในราคาเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 65,856 ล้านบาท ) พร้อมรับสิทธิสั่งซื้อเพิ่มอีก 500 ล้านโด๊ส 
ด้านนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของไฟเซอร์ กล่าวว่า วัคซีนประมาณ 110 ล้านโด๊ส จากข้อตกลงฉบับล่าสุด จะทยอยส่งมอบให้แก่สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ ส่วนที่เหลืออีก 90 ล้านโด๊สจะทยอยส่งมอบภายในวันที่ 30 เม.ย.ปีหน้า
ขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันข้อมูลทั้งหมด และขยายความเพิ่มด้วยว่า ต้องการใช้วัคซีนชุดนี้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี โดยพร้อมฉีดทันทีที่คณะกรรมการอาหารและยา ( เอฟดีเอ ) อนุมัติ และเตรียมสำหรับฉีดเป็น "เข็มที่สาม" หรือ "บูสเตอร์" ด้วย "หากมีความจำเป็น".

เครดิตภาพ : AP