เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์ ม.รังสิต มีการเสวนาเรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม กรณีคดีแตงโม นิดา จมน้ำเสียชีวิต” โดย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” กล่าวว่า ตอนนี้พยานหลักฐานใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน มี.ค. จะสรุปสำนวนคดี ซึ่งพยานหลักฐานที่มีอยู่ มีน้ำหนักไปในทางที่เป็นการประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่หลังจากนี้อาจมีการเพิ่มผู้กระทำผิด หรือความผิดเพิ่มเติม ภายในอาทิตย์นี้ ที่จะมีการประชุมสรุปผล

โดยขณะนี้มีข่าวในเชิงลับว่า ทางทีมของผู้ต้องสงสัย เตรียมเปลี่ยนทีมทนายที่ปรึกษาเป็นชุดที่ 4 หลังจากก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนทีมทนายมาก่อนแล้ว สิ่งนี้บ่งชี้ให้เห็นถึงความมีพิรุธของผู้ต้องสงสัย ตนเองไม่มีความกังวลและเชื่อมั่นในหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะความตายเป็นผลจากความประมาท ที่มีหลักฐานชัดเจนแล้ว ขอให้ทุกคนรอดูผลวันแถลงข่าวปิดคดี ซึ่งคดีนี้ยุ่งยากเพราะมีทนายเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ต้องสงสัยตั้งแต่เริ่มต้นคดี

ทั้งนี้ ได้ปรึกษากับคุณแม่ว่า จะมีพิธีฌาปนกิจร่างคุณ “แตงโม” ในเดือน พ.ค. และทำพิธีทางศาสนาคริสต์ต่อไป ซึ่งคาดว่า การฌาปนกิจจะไม่มีผลต่อรูปคดี เนื่องจากทางตำรวจได้เก็บหลักฐานต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว

ขอ ‘แตงโม’ช่วย! ส.ส.เต้ เชื่อเรือมี2ลำ เร่งหาหลักฐาน3อย่าง

ด้าน นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ “แตงโม” ได้โทรศัพท์เข้ามายังมือถือของ “ทนายเดชา” และกล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ว่า เมื่อวานได้คุยกับทนายกฤษณะแล้ว คุณแม่ขอให้ทนายเดชาเป็นทนายของคุณแม่คนเดียว โดยให้ทนายกฤษณะ ไปช่วยท่าน ส.ส.เต้ (มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์) ทำงาน และไม่ให้พูดเกี่ยวกับคดีน้องโม เพราะคดียังไม่จบ แต่หลักฐานต่างๆ ที่จะไปเริ่มหาใหม่สามารถพูดได้ ซึ่งพรุ่งนี้จะนำเอกสารที่แม่แต่งตั้งเป็นทนายมาคืนให้แม่ที่บ้าน

“แม่ยังเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ที่จะรวบรวมหลักฐานในคดีได้อย่างสมบูรณ์ เพราะที่บ้านเราร้องขออะไร ทางตำรวจก็อำนวยความสะดวกให้ อย่างวันที่พบศพ แม่ขอร้องให้นำร่างน้องโมมาหน้าโรงพัก เพื่อที่แม่จะได้เห็นหน้าครั้งสุดท้าย ท่านก็อำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นที่มาของการนำร่างกลับมาที่โรงพัก ก่อนที่ทีมกู้ภัยจะนำส่งไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งกรณีนี้เป็นความต้องการของคุณแม่เอง” นางภนิดา กล่าว

ขณะที่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้ที่อยู่บนเรือวันเกิดเหตุยังเป็นประเด็นที่น่าสงสัย ตอนนี้พยานหลักฐานทางตำรวจมีครบเกือบจะสมบูรณ์แล้ว ต้องคอยดูว่า จะเอาผิดได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคดีนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมา ระบบการสอบสวนของไทย ยังมีการแทรกแซงของผู้มีอำนาจ เลยทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานอย่างมืออาชีพได้.