สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการที่สหรัฐกล่าวว่า “ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ” ว่าปฏิบัติการของกองทัพเมียนมา ในรัฐยะไข่ เมื่อกลางปี 2560 ถือเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” หรือ “มาตรการกวาดล้างทางชาติพันธุ์” และ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” กับชาวโรฮีนจา “เป็นการกล่าวหาที่ห่างไกลจากความเป็นจริงมาก”


ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาชี้แจงในแถลงการณ์ ว่ากองทัพ “ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “ไม่มีเจตนาในเชิงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อทำลายกลุ่มบุคคลใด”


แม้สถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ยังคงดำเนินอยู่ แต่นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การพิจารณาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะปี 2560 หรือประมาณ 4 ปีก่อนเกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ


ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันชุดก่อนหน้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นบัญชีดำทหารระดับสูง 4 นาย ของกองทัพเมียนมา ได้แก่ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาหารทหารสูงสุด, พล.อ.ซอ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พ.อ.พิเศษ ถั่น โอ และ พ.อ.พิเศษ ออง ออง จากการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ตั้งแต่กลางปี 2560 ส่งผลให้เกิดคลื่นผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาหลั่งไหลไปยังบังกลาเทศ จนมีจำนวนสะสมประมาณ 1 ล้านคนในปัจจุบัน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES