เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งนี้มีจุดหมายเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและยังเป็นการสนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีเงื่อนไขว่า นักท่องเที่ยวและโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียน ซึ่งรัฐบาลจะมีส่วนลดค่าใช้จ่ายโรงแรม 40% สูงสุดไม่เกิน 3 พันบาทต่อห้องหรือคืน และยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งโรงแรมในภาคตะวันออก ต่างเข้าร่วมโครงการนี้จำนวนมากกว่า 200 แห่ง ต่างหวังว่าช่วยเศรษฐกิจและสถานะของโรงแรมที่ต่างปิดตัวกันมายาวนาน มีสภาพที่ดีขึ้น หลังจากที่โรงแรมต่างๆ ได้ดำเนินกิจการเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน มาตั้งแต่เดือน ม.ค. 64 ซึ่งพบมีนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจกับโครงการเที่ยวด้วยกันเป็นจำนวนมาก

นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เผยต่อไปว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการของแต่ละโรงแรมต่างประสบปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการรับเงินสมทบ 40% จากรัฐบาลได้ โดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ตรวจสอบเอกสารจากโรงแรมต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงแรมได้ยื่นขอรับเงินสมทบ 40% ในเฟส 1 และเฟส 2 ทางรัฐบาลจ่ายมาเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเข้าเฟส 3 และเฟส 4 ซึ่งจะหมดใน พ.ค.นี้ ทางกลุ่มโรงแรมได้ยื่นเอกสารเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านมา 4-5 เดือน รัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินสมทบได้ โดยอ้างว่าขณะนี้มีเงื่อนไขใหม่ เช่น โรงแรมต้องสแกนใบหน้านักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรม หรือจะต้องมีภาพนักท่องเที่ยวเข้ามาเช็กอิน ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีเงื่อนไขแบบนี้ ซึ่งจะให้โรงแรมต้องไปหารูปหรือภาพในกล้องวงจรปิดเป็นองค์ประกอบในการยื่นเอกสารขอรับเงินสมทบ 40% ซึ่งเป็นการยากพอสมควร เนื่องจากบางโรงแรมได้ทำการลบภาพกล้องวงจรปิดไปแล้ว เพราะเวลาผ่านมาหลายเดือน และเท่าที่ตรวจสอบกับบรรดาโรงแรม คาดว่ายังไม่รับเงินกันมากถึง 100 ล้านบาท

“ขณะนี้กลุ่มโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวด้วยกัน ต่างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากขาดสภาพคล่อง เพราะหากปล่อยระยะเวลาเนิ่นนานออกไป ยิ่งทำให้ได้รับผลกระทบมากขึ้น ซึ่งตนจะเรียกประชุมกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวด้วยกัน มาปรึกษาหารือกัน โดยจะทำหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งรัดจ่ายเงินสมทบ 40% อย่างเร็วที่สุด” นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าว