นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงแผนเร่งรัดการส่งออกเพื่อนำรายได้เข้าประเทศว่า  รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ เร่งหาโอกาสให้กับสินค้าไทยตามกลยุทธ์ตลาดนำการผลิต โดยได้มีการนำเสนอแนวทางในการขยายตลาดการส่งออกให้กับสินค้าไทยหลายชนิด โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม และโอกาสในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศต่าง ๆ

ทั้งนี้ ตัวอย่างของสินค้าที่มีโอกาส เช่น สหภาพยุโรป (อียู) ได้รับรองหนอนนกอบ ให้เป็นอาหารสำหรับมนุษย์ได้ และยังมีอีก 14 รายการของแมลงที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบขึ้นทะเบียนพิจารณาเป็นอาหารสำหรับมนุษย์ ซึ่งเป็นโอกาสใหม่ในการส่งออกสินค้าแมลงของไทยไปจำหน่าย ในฐานะอาหารโปรตีนชนิดใหม่ ส่วนสหราชอาณาจักร ต้องการสินค้าเทคโนโลยีสำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะคนเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ เช่น กล้องวงจรปิด อุปกรณ์ติดตามการเคลื่อนไหวของสัตว์ และบริการสมัครสื่อบันเทิงสำหรับสัตว์

นอกจากนี้ ตลาดเยอรมนี ยังต้องการสินค้าตกแต่งบ้านแฮนด์เมดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ เสื่อรองจานตะกร้าสาน ซึ่งไทยควรศึกษากฎระเบียบด้านความปลอดภัยของสินค้าสิ่งทอของยุโรป และจีน เน้นสินค้าสำหรับสตรีวัยกลางคนที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อกลุ่มนี้ 

ขณะเดียวกัน แนะนำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีอยู่ในแต่ละประเทศ เพื่อเปิดเจาะตลาดได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและรายเล็ก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงเท่าการเจาะตลาดในรูปแบบดั้งเดิม โดยที่ตลาดไต้หวัน มีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ ได้แก่ Momo,Pinkoi และ PC Home สำหรับสินค้าสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สินค้าอาหาร ของใช้ในบ้าน คอมพิวเตอร์ การสื่อสาร  ส่วนมาเลเซีย สามารถใช้แพลตฟอร์ม Shopee ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ขณะที่ตลาดอินโดนีเซีย ที่มีจำนวนผู้ใช้อินเตอร์สูง มีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ ได้แก่ Goto ของอินโดเซีย