เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี รับการประสานจาก ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามี นายสัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาว จ.ลพบุรี มาขอมอบตัวพร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. เครื่องกระสุนขนาดเดียวกัน 12 นัด โดยแจ้งว่าได้ก่อเหตุยิงผู้ได้รับบาดเจ็บ พื้นที่ สภ.เมืองลพบุรี แล้วหลบหนีมา ก่อนเปลี่ยนใจขอเข้ามอบตัวดังกล่าว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี เดินทางไปรับตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมัย จำปาทอง รอง สว.(สอบสวน ) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย บริเวณริมถนนด้านหลังสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคลพบุรี ซอยศรีสุริโยทัย 2 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีขาว ทะเบียน 2 ฒภ 6645 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่มีคราบเลือดติดอยู่บริเวณบันไดประตูด้านคนขับ ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ นายธีรพันธ์ ทัตธนนท์นัทธ์ หรือโต้ง อายุ 35 ปี ถูกยิงด้านหลังกระสุนทะลุหน้าอก และ นายพีระพัฒน์ คำภูเวีย หรือเอก อายุ 23 ปี ถูกกระสุนเข้าด้านหลังเหมือนกัน ถูกส่งนำตัว รพ.พระนารายณ์มหาราช ไปก่อนหน้านี้ แต่นายธีรพันธ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก รถกระบะ มิตซูบิชิ สีขาว ดัดแปลงเป็นรถส่งน้ำแข็ง จอดอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 คัน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน นายณรากรณ์ ฉัตราเขตข์ เบื้องต้นทราบว่า เป็นเจ้าของรถกระบะ มิตซูบิชิ ก่อนเกิดเหตุนายธีรพันธ์ ขับมาส่งน้ำตามปกติ แล้วอยู่ ๆ ก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า มีชายหญิงคู่หนึ่ง ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน มาประกบ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ จะมายึดรถ ซึ่งตนซื้อต่อมาจากทางอินเทอร์เน็ต เมื่อประมาณ 3 ปี ราคา 1.7 แสนบาท และยังไม่ได้ทำการโอน เพราะไม่สามารถติดต่อคนขายได้ ตนจึงรีบขับรถกระบะนิสสัน มาดู โดยมีนายพีระพัฒน์ คนงานส่งน้ำที่เดียวกันขี่รถ จยย.ตามมา โดยชายหญิงทั้งสองคนยืนยันว่าจะยึดรถแต่ตนไม่ยอม เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์จริงหรือไม่ เพราะไม่ได้มีบัตร หนังสือแจ้งยึดรถมาแสดง ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง

นายณรากรณ์ ให้การอีกว่า จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าว เดินขึ้นไปนั่งตรงด้านคนขับรถกระบะของตนเพื่อจะขับรถไป แต่ตนไม่ยอม และดึงตัวผู้หญิงคนดังกล่าวลงมาจากรถ เพราะรถต้องไปส่งน้ำ จึงเกิดการยื้อแย่งกันเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ชายคนที่มากับผู้หญิงได้เดินไปหยิบปืนที่รถฟอร์จูนเนอร์มา ตนจึงวิ่งหนีไปหลบอยู่ในร้านคาร์แคร์ใกล้กับที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จากนั้นชายหญิงที่ก่อเหตุก็ขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ขับหลบหนีไป ออกมาดูพบว่า นายธีรพันธ์ และ นายพีระพัฒน์ ถูกยิงเข้าที่หลังทั้ง 2 คน พลเมืองดีเลยช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล นายธีรพันธ์ เสียชีวิต ส่วนนายพีระพัฒน์ บาดเจ็บ อาการสาหัสยังไม่สามารถให้การได้

ต่อมา พนักงานสอบสวนได้เชิญตัว น.ส.สุรีย์วรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พนักงานติดตามทวงหนี้บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ที่จะยึดรถมาให้ปากคำ เบื้องต้นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว อ้างว่า ถูกกลุ่มผู้เสียชีวิตทำร้ายก่อน ทำให้นายสัญญา ต้องยิงปืนเพื่อป้องกันตัว โดยตนก็มีการถ่ายคลิปไว้ตลอด แต่ไม่สามารถให้ดูได้ อ้างว่าต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน มอบให้ทนายดำเนินการ และจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่มารุมทำร้ายตนเองด้วย ส่วนนายสัญญา มือปืนรายนี้ อยู่ระหว่างคุมขังไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี รอสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป