จากกรณี เรืออัมภา 8 เรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด เกิดระเบิด กลางแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ ปากคลองสรรพสามิต ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เกิดเพลิงลุกไหม้ควันพวยพุ่งรุนแรง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับเรือบรรทุกน้ำมันครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง  โดยเรือดังกล่าวได้บรรทุกน้ำมันดิบ 3.2 ล้านลิตร มาจากเกาะสีชัง อ.เกาะสีซัง จ.ชลบุรี เดินทางไปยังท่าเทียบเรือกรุงเทพ และได้เกิดระเบิดขึ้นมาจากระบบของเรือ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้ และ ไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลแต่อย่างใด ในเบื้องต้น มีนายเรือพร้อมลูกเรือรวม ทั้งหมด 15 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ  4 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนสาเหตุการระเบิดอยู่ระหว่างสอบสวน ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าว พร้อมกับให้กรมเจ้าทำดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อหาสาเหตุกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป

ด้านนายฉัตรชัย  เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวมีคนประจําเรือ 14 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ชื่อ นายณัชพิศณุพงศ์ มาเนียม ตําแหน่ง ผู้ช่วยต้นเรือ ได้นําตัวส่งโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ และพบผู้เสียชีวิต จํานวน 1 นาย ชื่อนายประสิทธิ์ สุภัทรวัน ตําแหน่ง ต้นเรือ จากการสำรวจยังไม่พบน้ำมันรั่วไหล และไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากเรือดังกล่าวขณะนี้จอดเกยตื้นอยู่ โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรืออัมภา 8 และออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเรือเรือ โดยจะมีการเชิญทางเจ้าของเรือเข้าพบอีกครั้ง ทั้งนี้ได้สั่งการให้เรือกำจัดคราบน้ำมันของสำนักงานเจ้าท่าออกไปวางทุ่นรอบเรือดังกล่าวเพื่อป้องกันคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลภายหลัง

ขณะที่มีรายงานสาเหตุเบื้องต้น คาดมาจากการเสียดสีของโซ่สมอเรือ ที่ทำให้เกิดประกายไฟที่หัวเรือ จนไปติดไฟซึ่งเป็นไอระเหย และแรงดันที่สะสมอยู่ในห้องหัวเรือ จนเกิดการระเบิดดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป