จากกรณี โลกออนไลน์แชร์ภาพและข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งอ้างว่า โดนร้านชาบูปรับเงิน 1,000 บาท หลังจากสั่งอาหารมาแล้วกินไม่หมด โดยทางร้านตักเศษอาหารในหม้อและถ้วยไปชั่งน้ำหนักเพื่อคิดเงินค่าปรับ ทั้งยังระบุด้วยว่า หมูเหนียวเคี้ยวจนกลืนไม่ลง อีกทั้งร้านยังให้มาผิดเมนู เพราะสั่งหมูแล้วได้บะหมี่หยก สุดท้ายจึงต้องกินบะหมี่หยกจนอิ่ม ภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่อยากให้ทางร้านออกมาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Daw Thunyawan” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชาบูดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องปรับเงินถึง 1,000 บาท รวมทั้งโชว์หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ทานไม่หมดจำนวนเท่าไรกันแน่ โดยข้อความระบุว่า 1.กฎของทางร้านพนักงานจะแจ้งทุกครั้งก่อนรับประทานว่า อาหารสามารถสั่งได้ตลอด ไม่อั้น แต่ถ้ากินไม่หมดขอปรับขีดละ 50 บาท, 2.ของที่ชั่งจะชั่งแต่เนื้อๆ ไม่มีน้ำและผัก ที่เห็นในรูปข้าวโพดอ่อน 2 ชิ้น คือแถมให้เพราะเหลือจากคอนโดลูกค้า, 3.ของในหม้อมีประมาณ 3 ขีด (เนื้อล้วนๆ ไม่มีเศษหมูแน่นอนตามวิดีโอและไม่มีน้ำ) ส่วนในคอนโด 1.7 กิโลกรัม ขอให้เข้าใจทางร้านด้วยว่าทุกอย่างคือต้นทุน ทางเราไม่ห้ามลูกค้าจะทานเยอะเท่าไรก็ได้ สั่งมาทานไม่หมดทางร้านก็ต้องปรับตามกฎ, 4. กฎที่ร้านเขียนชัดเจนว่าอาหารมาไม่ถูกต้อง สามารถคืนได้ภายใน 5 นาที กรณีหมี่หยกมาเกิน แต่ทางร้านเสิร์ฟผิดต้องขออภัยด้วยเช่นกัน กรณีทำไมต้องปรับในหม้อ เพราะว่าเคยมีลูกค้าเอาลงไปต้มและหมกลงในหม้อ ดังนั้น ของในหม้อก็คือจะถูกปรับไปด้วยแต่จะเอาแค่เนื้อ ๆ จริงๆ ไม่มีเศษอาหารหรือน้ำ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของร้านยังได้โพสต์ภาพของคอนโดที่มีอาหารเหลืออยู่จำนวนมาก เมื่อนำมาตั้งเรียงกันแล้วมีจำนวนหลายสิบถาด ทั้งนี้ยังระบุในตอนท้ายด้วยว่า ทางร้านเตรียมแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากลูกค้าเอาเรื่องไปโพสต์ทำให้ทางร้านเสียชื่อเสียง ขณะที่ ชาวเน็ตที่พบเห็นการชี้แจงของเจ้าของร้าน ก็ได้โพสต์ข้อความเห็นใจเรื่องที่เกิดขึ้น และบางส่วนก็สนับสนุนให้แจ้งความดำเนินคดีกับลูกค้ารายนี้อีกด้วย.