จากกรณีเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือคุณแม่แตงโม-นิดา ได้ไปยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม โดยระบุว่าเหตุผลหลักที่มีการยื่นถอนเรื่อง เพราะมีสมาชิกของ กมธ. ได้นำเรื่องในสำนวนและการผ่าชันสูตรไปเผยแพร่ พร้อมยังมีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจซึ่งไม่เหมาะสม ประกอบกับนางภนิดา พิจารณาเห็นว่าไม่มีความต้องการให้ กมธ. ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้ว จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมนั้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร A ทนายเดชา เปิดเผยถึงกรณีที่นางภนิดาถูกวิจารณ์ว่าเปลี่ยนไป ว่า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ตอนนี้มองว่าคุณหมอพรทิพย์ หมดความจำเป็น เนื่องจากในตอนนั้นเป็นทนายเดิมที่ดูแล ด้วยสถานการณ์ฉุกละหุก ทนายเดิมเลยแนะนำให้ไปขอคำแนะนำจาก กมธ. แต่หลังจากนางภนิดาได้ไปพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พบหมอนิติเวช สถานการณ์เลยเปลี่ยน พบว่าการทำงานของตำรวจมีความเรียบร้อยดี และทำให้นางภนิดาหมดข้อสงสัย จึงมองว่าคุณหมอพรทิพย์ไม่มีความจำเป็นแล้ว

ทนายเดชา กล่าวต่อว่า นางภนิดาไม่ได้ถูกกดดัน หรือถูกข่มขู่ และไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง เพราะนางภนิดาไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่จากการที่นางภนิดา ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มีเพียงระบายกับนางภนิดา โดยเผยถึงความทุกข์ใจที่สมาชิก กมธ. ได้ไปให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ว่าทำงานเอนเอียง นางภนิดาเลยตัดสินใจด้วยตนเองว่าให้ถอนเรื่องให้จบ จะได้ไม่มีใครมีสิทธิมาพูดอีก โดยนางภนิดาเองก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ไม่สืบสวนคดีให้แล้ว ใครจะทำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการรายงานให้นางภนิดาทราบทุกอย่างจนเป็นที่พอใจ เพียงแค่ไม่ได้บอกกล่าวต่อสังคม รวมถึงในขณะนี้ นางภนิดาเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องคดีแล้ว แถมยังชวนตนไปร้องเพลงอยู่เลย ทั้งนี้นางภนิดาก็มั่นใจ 100% ว่าแตงโมจะได้รับความยุติธรรม เพราะทุกข้อสงสัยของสังคม ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบหมดแล้ว รอเพียงการแถลงปิดคดีเท่านั้น ซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 24 เม.ย.นี้ ก็อาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และรอการสรุปต่อไป

สำหรับกรณีของนายเต๊ะ ศตวรรษ ที่นางภนิดาได้เปิดเผยว่า เป็นคนนอก ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ตัวแทนญาตินั้น ทนายเดชา กล่าวว่า นางภนิดาไม่ได้ติดใจอะไรกับคุณเต๊ะ ในตอนที่เข้าไปสังเกตุการผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งนางภนิดาก็ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยินยอมให้เข้าไปสังเกตการณ์ แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าให้เข้าไปในฐานะตัวแทนของคุณแม่หรือญาติ และคุณเต๊ะเองก็ไม่ได้มีการเอาเรื่องต่างๆ ไปให้สัมภาษณ์มากนัก นางภนิดาจึงไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่จุดมุ่งหมายในตอนนี้นั้น ไม่ต้องการให้คนนอก ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกแล้ว เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี เปรียบเหมือนไส้ติ่งที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย

ส่วนกรณีผู้ที่นำเรื่องต่างๆ ในสำนวน หรือเรื่องของการผ่าชันสูตรศพไปพูดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ทนายเดชา เผยว่าหากหลังจากนี้ยังไม่หยุด แล้วนางภนิดาเกิดทนไม่ไหว ก็ขอให้เตรียมรับหมายศาล เช่นเดียวกับโซเชียลที่มาวิพากษ์วิจารณ์นางภนิดาเกินความจำเป็นด้วย แต่ตอนนี้นางภนิดายังเฉยๆ แต่ถ้าไม่หยุดก็เตรียมรับหมายศาลเช่นกัน.