กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์หลาย 15 คน อ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ บุกอุ้มค้นตัวผู้เสียหายและครอบครัว ขู่รีดเงิน 4 แสนบาท และพระ 1 องค์ สืบเนื่องจากเล่นพนันจากเว็บพนันออนไลน์ แล้วได้เงินเกือบ 2 ล้านบาท โดยมีรายงานว่านายตำรวจยศ พ.ต.ต.คม หนึ่งในผู้ต้องหา ได้แอบเดินทางเข้ามอบตัวที่ สน.บางนา แล้ว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และกรรโชกทรัพย์ ก่อนนำส่งศาลจังหวัดพระโขนง หลังทำการสอบปากคำเสร็จสิ้น นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้เข้าค้นบ้านเลขที่ 81/16 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยได้ยึดรถโตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ชห 5679 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ สน.บางนา พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ทาง พ.ต.ต.คม ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ตำรวจได้สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 2.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง และ 3.ร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ จากนั้นได้นำตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งศาลได้อนุมัติให้ฝากขัง นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานของศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 5 ราย ในข้อหาเดียวกัน ซึ่งจะมีการติดตามจับกุมตัวต่อไป

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาที่มามอบตัว 1 รายคือ พ.ต.ต.คม เป็นข้าราชการตำรวจ บช.สอท. ส่วนที่ถูกออกหมายจับ เป็นข้าราชการตำรวจสังกัด บช.สอท. 1 นาย อดีตข้าราชการตำรวจ 1 คน พลเรือน 3 คน ทั้งนี้พิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหาได้แล้วทั้งหมด 6 คน และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นต่อไป จากการตรวจสอบเบื้องต้นของตำรวจ สน.บางนา และตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 พบว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 10 คน วันนี้ตำรวจพยายามติดต่อผู้กล่าวหาเพื่อให้ผู้กล่าวหามาสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงประสานไปยังทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด และญาติเพื่อให้ช่วยติดตามผู้กล่าวหาเข้าให้การเพิ่มเติม วันนี้สอบปากคำได้เพียงคนเดียวคือ พ.ต.ต.คม ที่มาพบพนักงานสอบสวน ส่วนอีก 5 คน ได้ออกหมายจับ ยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว ส่วนคำให้การของ พ.ต.ต.คม อยู่ในสำนวน การอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป

“ขอให้ผู้เสียหายสบายใจ เพราะข้าราชการตำรวจที่ไปข่มขู่ ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฝากขังไปแล้ว 1 ราย ส่วนที่เหลือถูกออกหมายจับไปแล้วเช่นกัน ซึ่งจะดำเนินคดีให้ครบทุกราย และขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ ถ้ามีผู้ใดมาข่มขู่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยขอให้แจ้งเข้ามา เราพร้อมดำเนินการให้ความคุ้มครองตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่” พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมนั้น จะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตำรวจสามารถดำเนินการได้ในจุดหนึ่ง แต่พอมีข้อสงสัยที่อยากจะซักถามเพิ่มเติม ก็จำเป็นต้องสอบถามจากผู้เสียหายในบางเรื่องบางประเด็น จากคำให้การในวันที่ 25 มีนาคมและการทำงานของตำรวจ ก็สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำผิดได้จำนวนหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ตำรวจได้ดำเนินการไปเยอะแล้วหากยังไม่มั่นใจประสานมาโดยตรงที่ตำรวจที่ผู้เสียหายไว้วางใจหรือจะประสานมาโดยตรงที่ผมได้ ยืนยันว่าเราทำงานอย่างเต็มที่ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ

ส่ำหรับประเด็นตำรวจอีก 2 ราย ที่ไม่ได้ลงลายมือชื่อนั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ได้สอบปากคำไป 1 นาย ยืนยันพร้อมอ้างถิ่นที่อยู่ว่าไม่ได้มาร่วม เพียงแต่เคยเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของ พ.ต.ต.คม สมัยที่ยังรับราชการอยู่ที่ บก.น.3 คือก่อนที่จะไปรับราชการที่ บช.สอท. เคยอยู่ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 3 โดยมีข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นาย ที่ปรากฏในรายชื่อ แต่ไม่ได้ลงลายมือชื่อ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จึงถูกนำชื่อไปใส่โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ไปร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดย 1 คนที่เรียกมาสอบปากคำยืนยันถิ่นที่อยู่แล้ว ส่วนอีก 1 คนผู้บังคับบัญชายืนยันว่าป่วยกักตัวโควิด-19 ซึ่งมาไม่ได้อยู่แล้ว หากพ้นการกักตัวรักษาอาการป่วยโควิด-19 แล้วก็จะเรียกมาสอบปากคำในภายหลัง

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า จะตรวจสอบไปยังต้นสังกัดของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจทั้ง 2 นายว่า เขามีหน้าที่อะไร ส่วนคดีอื่นของผู้ต้องหา อยู่ระหว่างตรวจสอบอยู่ว่า ผู้ต้องหาทุกรายที่ปรากฏชื่อว่ามีคดีเก่าอะไรหรือไม่

เมื่อถามถึงคดีเมื่อปี 2556 เกี่ยวกับกับวินรถตู้ในพื้นที่บางบัวทองที่ปรากฏชื่อ ร.ต.ท.คม อายุ 31 ปี ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดี พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบคดีที่ปรากฏชื่อของนายตำรวจคนดังกล่าวว่า มีผลทางคดีอยู่ว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างไร ส่วนการตรวจค้นเมื่อวานนี้ได้ตรวจยึดรถยนต์ที่พบเห็นในวันที่เกิดเหตุได้ 1 คัน และตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน รปภ. ของ พ.ต.ต.คม อุปกรณ์กล้องวงจรปิด ในเบื้องต้นทราบว่ากล้องวงจรปิดได้ถูกลบเมมโมรี่ไปแล้ว ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบว่าจะสามารถกู้ไฟล์ได้หรือไม่

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เพราะตั้งแต่ผู้กล่าวหาได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางนา และตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับได้ 5 ราย และแจ้งข้อหา 1 ราย รวม 6 ราย ถือว่าตำรวจทำงานได้รวดเร็วระดับหนึ่ง ถึงแม้จะมีข้าราชการตำรวจ 1 รายถูกแจ้งข้อหา อีกรายถูกออกหมายจับ ซึ่งประชาชนจะเห็นได้ว่า เราทำงานอย่างจริงจัง ไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะเป็นข้าราชการตำรวจก็ตาม ต้องว่ากันไปตามกฏหมายและข้อเท็จจริง

ส่วนเว็บไซต์พนันออนไลน์ในคดีนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าเว็บไซต์ได้ปิดเว็บไปแล้ว ตำรวจหน่วยที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งสองนายจะทำเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ซึ่งทาง ผบช.สอท. ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และวันนี้ได้สั่งการให้ ผกก.สน.บางนา ทำเรื่องไปถึง ผบก.สอท.2 และ ผบก.สอท.5 อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยตามระเบียบต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ได้ชี้แจงถึงกรณีเหตุชุลมุนขณะนำตัว พ.ต.ต.คม ไปส่งศาล ว่า เรื่องนี้ทางผู้ต้องหาในคดีนี้ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ในทางปฏิบัติพนักงานสอบสวนมีอำนาจที่จะสั่งให้ไปศาลเพื่อขอหมายขัง ถ้าเขาขัดขืนเราก็ทำได้เท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้หลบหนี โดยมีมาตรการจากเบาไปหาหนัก มาตรการเบาเริ่มจากสั่ง ซึ่งเขาก็ต้องไปเอง ต้องเดินตามเมื่อเขาไม่ไป ก็ต้องมีการควบคุม มีการใช้กำลังพาเขาไปที่ศาลตามความเหมาะสม.