เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ศูนย์ทนายคลายทุกข์ เลขที่ 194 รามอินทรา 52/1 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากมีการรายงานข่าวเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ นายปอ-ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ และนายโรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หลังทั้งคู่เดินทางไปรายงานตัวครั้งที่ 3 พร้อมกับให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายวิศาพัช หรือแซน ในข้อกล่าวหากระทำผิดฐาน “กระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะทนายความคดีแตงโม เปิดเผยว่า จากที่เมื่อวาน (2 เม.ย.) ตนได้พูดคุยกับ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ก็ทราบว่า ทุกคนบนเรือมีโอกาสถูกดำเนินคดีแน่นอน ไม่น่าจะมีใครรอด เว้นแต่พูดความจริง ซึ่งตนก็ส่งสัญญาณขอให้คุณกระติกพูดความจริงให้หมด รวมทั้งนายจ๊อบด้วย แต่ก็อยู่ที่ว่าทั้งคู่จะให้การที่เป็นประโยชน์หรือไม่ ถ้าพูดหมดก็มีโอกาสเข้าสู่การเป็นพยาน แต่ถ้าพูดไม่หมดก็จะเปลี่ยนจากการเป็นพยานไปเป็นผู้ต้องหา

ส่วนอีกคนที่จะถูกดำเนินคดีด้วย ก็คือ กรณีที่มีนักกฎหมายมาคอยบงการ ทำสคริปต์ บิดเบือนข้อเท็จจริง ให้เบิกความเท็จ จนทำให้คนบนเรือเข้ามาพบพนักงานสอบสวนช้า กลายเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่องนั้น ทั้งๆ ที่บุคคลดังกล่าวก็อยู่ในวงการนักกฎหมาย มีความรู้ทางด้านกฎหมาย แต่กลับกระทำผิดเสียเอง ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็เป็นชุดที่ให้คำปรึกษากับกลุ่มผู้ต้องหาบนเรือ แต่ตนไม่ขอระบุว่าเป็นชุดไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีพยานหลักฐานในส่วนนี้อยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากคนบนเรือก็ได้มีการยอมรับถึงกรณีดังกล่าวจริง

ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่จะถูกดำเนินคดีร่วมด้วย ก็จะเป็นในส่วนของกลุ่มหิวแสง เช่น กลุ่มคนที่นำเอาคลิปวิดีโอหลังเกิดเหตุมาระบุว่าเป็นคลิประหว่างเกิดเหตุ กลุ่มคนที่จัดทำคลิปวิดีโอปลอม และคนที่ไปแจ้งความเท็จ ทั้งนี้ ทนายเดชา ระบุเปรยๆว่า คนที่ไปแจ้งความเท็จนั้น เป็นผู้ชาย เคยไปเจอพิธีกรคนดัง แต่ตนไม่ขอระบุรายละเอียดลงลึกกว่านี้ แต่คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ทั้งหมด

สำหรับประเด็นการฆาตกรรมที่สังคมพูดถึงกันนั้น ทนายเดชา เผยว่า ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีเกี่ยวกับการฆาตกรรม เพราะไม่มีพยานหลักฐานใด บ่งชี้ไปถึงประเด็นฆาตกรรม อีกทั้งบรรดาข้อพิรุธใดๆ ก็ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย การที่จะบอกว่าเป็นการฆาตกรรม ตามหลักกฎหมายแล้ว จะต้องมีพยานและหลักฐาน ต้องมีคนเห็นตอนฆ่า มีอาวุด มีเลือด แต่นี่มีเพียงศพ ถ้าเป็นเช่นนั้นจึงจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ วอนขอสังคมเข้าใจตรงนี้

สำหรับเรื่องการขอประกันตัวของแซนที่อาจจะเกิดขึ้น ทนายเดชา กล่าวว่า แซนมีสิทธิกระทำได้ ส่วนเรื่องหมายจับแซนนั้น ก็เป็นไปตามพยานหลักฐาน รายละเอียดตนไม่ขอตอบ แต่ขอพูดในหลักการ ว่า แซน เป็นเพื่อน และนั่งเล่นโทรศัพท์ โดยไม่ดูแลแตงโม ปล่อยให้แตงโมตกเรือ ซึ่งก็มีหลายส่วนประกอบกันที่ทำให้ถูกหมายจับ

ทนายเดชา ยังกล่าวถึง 2 ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่ทั้งปอและโรเบิร์ตถูกแจ้งอย่างเป็นทางการว่า ก็จะเกี่ยวกับการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่พนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ป. อาญา มาตรา 172 (จำคุก 2 ปี) และ ข้อหา ห้ามมิให้ผู้ใด เท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้ หิน กรวด ทราย ดิน โคลน อับเฉา สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใดๆ ยกเว้นน้ำมัน และเคมีภัณฑ์ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างน้ำ หรือทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจร ของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือทะเล ภายในน่านน้ำไทย อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอนหรือสกปรก เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า พ.ร.บ.การเดินเรือฯ มาตรา 119 (จำคุกไม่เกิน 6 เดือน)

โดยตนคาดว่าระยะเวลาสำหรับการติดคุกของทั้งปอและโรเบิร์ต รวมๆ แล้วก็อาจจะ 12 ปี 6 เดือน เพราะข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะติดคุกไม่เกิน 10 ปี ส่วนข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จก็จะติดคุก 2 ปี ส่วนทิ้งแก้วทิ้งขวดน้ำลงแม่น้ำก็ 6 เดือน ถ้าทั้งคู่สู้คดีก็ติดคุก แต่ถ้ารับสารภาพ โทษก็ลดลงกึ่งหนึ่ง

กรณีการฉี่บนเรือของแตงโม ทนายเดชา เผยว่า ตนไม่ขอตอบประเด็นนี้ เพราะอยู่ในส่วนของคดี พร้อมยืนยันถึงกรณีที่ทนายอัจฉริยะได้แถลงข่าวนั้น ไม่เป็นไปตามที่แถลงข่าว เพราะข้อมูลไม่ตรงกับในสำนวน ซึ่งตนก็ห่วงในเรื่องของการไปแจ้งความของทนายอัจฉริยะด้วย แต่ถ้าเขาทำอะไรแล้ว เขาก็ต้องรับผิดชอบอย่างที่เขาเอ่ย อย่างไรก็ตาม ทางคุณแม่ก็อยากให้กระติกพูดความจริงให้หมด เพราะกระติกสนิทกับแตงโม และแตงโมก็รักลูกกระติกมาก ส่วนในช่วงนี้ คุณแม่ก็ของดออกสื่อเพราะเครียดกับดราม่า เพราะทำอะไรไปคนก็ไม่เชื่อและใส่ร้ายคุณแม่ ท่านก็เลยขอหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ไปก่อน

ทั้งนี้ ตนขอให้สังคมมั่นใจ เพราะถ้าตนไม่จริงจังในเรื่องคดี หรือไปมีเรื่องเกี๊ยะเซียะเกี่ยวกับเงินทอง เรื่องคดีคงจบไปนานแล้ว คงไม่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับใคร ส่วนกรณีของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ผลการชันสูตรพลิกศพรอบ 2 ทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดีครบหมดแล้ว แต่ถ้า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ คิดว่ามีหลักฐานเพิ่มเติม ตนก็ขอให้คุณหญิงพรทิพย์ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย อีกทั้งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาแก่เจ้าของอู่เรือแต่อย่างใด