เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ กล่าวถึงกระแสข่าวว่ามีทนายความชื่อดังเป็นกุนซือในการวางสคริปต์เขียนบทให้ห้าคนบนเรือโยนความผิดให้กับแตงโม ว่า  ขอยืนยันตรงนี้ ว่าไม่ใช่ตนแน่นอน ซึ่งหลังมีกระแสดังกล่าวบรรดาเพื่อนฝูงรวมถึงคนที่รู้จักก็ต่างโทรศัพท์มาสอบถาม รวมถึงทนายเดชาก็ได้มีการโทรศัพท์มาหาตน และได้มีการพูดคุยกับทนายเดชา โดยทนายเดชา บอกว่าไม่ได้เป็นคนระบุว่าทนายคนดังนั้นหมายถึงตน อีกทั้งบอกว่าก็รู้อยู่ว่าใครเป็นคนเสี้ยม ซึ่งในส่วนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

ส่วนกระแสดังกล่าวออกมาจากทางตำรวจหรือไม่นั้น นายษิทรา กล่าวว่า  ส่วนตัวมองว่าเป็นรูปแบบวิธีการทำงานของทางตำรวจ ต้องการเบี่ยงเบน  อีกทั้งในวันนี้มีการออกหมายจับแซน ในความผิดกระทำการโดยประมาท แสดงให้เห็นว่าทิศทางแนวโน้มของคดีนี้ทางเจ้าที่ตำรวจน่าจะพุ่งเป้าไปที่อุบัติเหตุ  เรื่องของความประมาทและเห็นได้จากการตั้งข้อกล่าวหาคนที่อยู่บนเรือ แต่ว่าประชาชนและคนในสังคมส่วนใหญ่ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องของความประมาท และมองว่าทำไมตำรวจถึงไม่ดำเนินคดีในส่วนของความผิดอื่นๆ ซึ่งทางตำรวจก็ต้องหาวิธีแบบนี้ หาเป้ามาเพื่อที่จะเบี่ยงประเด็น ว่าใครเป็นกุนซือและต้องการดิสเครดิตใคร  อย่างไรก็ตาม หากถามว่ากุนซือมีจริงหรือไม่ มันมีอยู่แล้วเป็นทนายความ ส่วนที่ทนายความคนนั้นเป็นคนแนะนำ สอนคนบนเรือให้การอย่างนี้หรือไม่อันนี้ตนไม่ทราบ

“ให้ตั้งข้อสังเกตง่ายๆมีพยานให้การคืนนั้น หลังจากที่แตงโมตกเรือ มีคนบนเรือน่าจะเป็นกระติกโทรศัพท์ไปหาใครคนหนึ่งว่า แตงโมตกเรือจากการไปปัสสาวะบริเวณท้ายเรือ ก็แสดงว่าในส่วนนี้อาจจะมีมูลความจริงอยู่บ้าง หรืออาจจะมีคนแนะนำให้พูดอย่างนั้น แล้วจะมาบอกว่ามันเกิดตอนอยู่กับผมได้อย่างไร ในส่วนของการดำเนินคดีในเรื่องของการให้การเท็จนั้นทางกลุ่มผู้ต้องหาต้องให้การรับสารภาพก่อนว่า ให้การเท็จในส่วนไหนและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และใครเป็นคนบงการ หรือบอกว่าทนายคนนี้คนนั้น เป็นคนสอนให้พูดถ้าแบบนี้ไปดำเนินคดีทนายความได้เลย ซึ่งกรณีนี้บอกได้ว่า หลังเกิดเหตุก่อนที่คนบนเรือจะมาปรึกษาผมได้มีการไปหาคนกลุ่มแรก ซึ่งเป็นทนายความและกลุ่มคนที่สองเป็นผู้พิพากษา”  ทนายษิทรา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายษิทรา ยังได้มีการโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกับตอบคอมเมนต์ ว่า “พวกที่ชอบสร้างประเด็น เชิญคณะทัวร์มาหาผม ไม่กลัวผมเชิญคณะทัวร์ไปหาบ้างเหรอ อย่าให้หมั่น”