สำนักงานนายอำเภอฮิลล์เคาน์ตี รัฐเทกซัส เปิดการสืบสวนคดีคนร้ายปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์แจ้งเหตุว่า เธอโดนเรียกให้หยุดรถระหว่างทางโดยเจ้าหน้าที่ปลอม โดยเหตุเกิดที่เมืองแอบบ็อตต์ เขตฮิลล์เคาน์ตี
นักศึกษาหญิงซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผยนามให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าในขณะที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปทางเหนือบนทางหลวงสาย I-35 ช่วงผ่านเมืองแอบบอตต์ รัฐเทกซัส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอก็สังเกตเห็นไฟสัญญาณกะพริบของรถตำรวจจากกระจกมองหลังของเธอ และคิดว่าโดนเรียกให้จอดเพื่อตรวจสอบป้ายทะเบียนรถที่หมดอายุไปแล้ว แต่ตำรวจดังกล่าวกลับบอกว่า เธอขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
นักศึกษาสาวกล่าวว่า เธอมั่นใจตัวเองขับรถต่ำกว่ากำหนดเนื่องจากสภาพการจราจร และรู้สึกสังหรณ์ใจว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ตำรวจดังกล่าวสั่งให้เธอนำใบขับขี่และสมุดทะเบียนรถออกมา แต่นักศึกษาสาวบอกว่าเธอไม่สะดวกใจที่จะทำตาม และแสดงความเห็นต่อผู้สื่อข่าวว่าชายที่เธอเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในตอนนั้นดูท่าทาง ‘เหมือนคนคลุ้มคลั่ง’
นอกจากนี้เธอยังบอกว่าตนสังเกตเห็นรายละเอียดหลายอย่างที่ดูผิดเพี้ยน เช่น การที่เจ้าหน้าที่ไม่สวมเสื้อกันกระสุนหรือเครื่องแบบตำรวจตามปกติ รวมทั้งตราประจำตัวเจ้าหน้าที่ของเขาดูมีสัดส่วนผิดเพี้ยนและไม่ระบุสังกัด ซึ่งทำให้เธอมั่นใจว่าชายคนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจตัวจริง
ผู้เสียหายยังเล่าอีกว่าเธอขอดูหมายเลขที่ตราประจำตัวของเจ้าหน้าที่ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้เธอดู จากนั้นสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง ชายที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่พยายามจะเปิดประตูรถของเธอ ตะโกนด่าเธอและทำตัวหยาบคายอย่างมาก ขณะที่เธอขอร้องให้เขาหยุดและจากไปเสีย เพราะเธอกำลังจะโทรฯ แจ้งตำรวจ คนร้ายจึงรีบหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
เมื่อนักศึกษาสาวโทรฯ แจ้งเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ที่รับสายตอบกลับว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของหน่วยลาดตระเวนอยู่ในบริเวณนั้น
สำนักงานนายอำเภอฮิลล์เคาน์ตี กล่าวว่า ขณะนี้ทางการกำลังค้นหาตัวคนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นชายที่มีเชื้อสายลาติน สูงประมาณ 177 ซม. หนักราว 99 กก. ขับรถเอสยูวี Chevrolet Tahoe สีดำรุ่นปี 2018 พร้อมกับให้คำแนะนำแก่ประชาชนว่า หากตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นกรณีนี้ ให้โทรฯ แจ้งตำรวจ แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ระบุหมายเลขประจำตัวและขับรถไปยังพื้นที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากและมีแสงสว่าง เพื่อหาคนที่สามารถเป็นพยานรู้เห็นได้
ความผิดในการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นข้อหาอาชญากรรมระดับสาม ซึ่งหากได้รับการตัดสินว่าผิดจริง ผู้ต้องสงสัยจะต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 335,400 บาท)
แหล่งข่าว : kcentv.com
เครดิตภาพ : Getty Images
