เมื่อวันที่ 6 เม.ย. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ.1 แถลงผลชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.1 จับกุม นายเสกสรร หรือ ดํา ไชยสาป อายุ 35 ปี นายเกรียงไกร หรือ กล โคตะวินนท์ อายุ 30 ปี และนายกําธร หรือ ธร สีสมโพชน์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางกัญชา 25 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 1,000 กิโลกรัม รถตู้โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮจ 1776 กรุงเทพมหานคร รถกระบะเชฟโรเลต สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กท 4939 ชัยภูมิ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณห้องพักภายในเรือนแก้วรีสอร์ท หมู่ 4 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจับกุม นายกําพล หรือ ต้อม กิติผง พร้อมของกลางกัญชา รวม 15 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 649 กิโลกรัม ภายในบ้านเลขที่ 60/2 หมู่ 5 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดดังกล่าวหลงเหลืออยู่ และในวันที่ 5 เม.ย. จะลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาพื้นที่ตอนในของประเทศไทย ผ่านทางถนน สระบุรี-หล่มสัก เมื่อผู้ต้องสงสัยขับรถขนกัญชาโดยมีรถนำมาหยุดรถภายในเรือนแก้วรีสอร์ท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าเข้าตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เผยอีกว่า เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพ กัญชาดังกล่าวเป็นกัญชาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หากเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วจะมีราคาขายปลีกประมาณกิโลกรัมละ 9,000-10,000 กว่าบาท โดยผู้ต้องหาได้เงินค่าจ้างในการลักลอบขนคนละ 20,000 บาท ส่วนนายกําธร ผู้ขับรถนำได้ค่าจ้าง 50,000 บาท หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป