เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และการรักษาผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น โดยระบุข้อความว่า “วันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. วันที่ 106 ของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ วันที่มีผู้ป่วยโควิดรายใหม่สูงสุดทำลายสถิติของประเทศที่ 15,335 คน

วันนี้มีบุคลากรในโรงพยาบาลมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกอีกสามราย ในนี้เป็นพยาบาลอีกหนึ่งคน จำนวนคนที่มา Swab ทั้งหมดเมื่อวานมีรวมทั้งสิ้น 191 คน มีผลเป็นบวกที่เราต้องรับเข้ามาดูแลรักษาอีก  48 คน และมีผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตในโรงพยาบาลเพิ่มอีกหนึ่งคน

ที่ รพ.สนามวันนี้ เรารับผู้ป่วยเข้ามาเพิ่มอีก 26 คน และส่งผู้ป่วยที่หายแล้วกลับบ้านได้รวม 27 คน ผลรวมของวันนี้อยู่ที่ 390 คน ในจำนวนเกือบ 400 คนนี้ มีผู้ป่วยเด็กอายุน้อยอยู่มากถึง 51 คน เกือบทั้งหมดติดเชื้อจากผู้ปกครองและมารักษาอยู่ร่วมห้องพักกับพ่อแม่ วันนี้เป็นคิวเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วยเด็ก ห้องเอกซเรย์ที่ รพ.สนามจึงกลายเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นไปโดยปริยาย น่าจะไปช่วยหยอกล้อเล่นสนุกกับเด็กเหล่านี้ได้ ถ้าไม่นึกถึงว่าทุกคนที่เข้าไป จะต้องใส่ชุด PPE หลายชั้น ใส่หน้ากาก N 95 ครอบด้วยเฟซชิลด์และหมวกคลุมศีรษะ และ Leg cover เหมือนกับเจ้าหน้าที่เอกซเรย์ของเราด้วย

Home Isolation ของเรายังทำงานได้ดีแม้ในวันหยุดยาว เพราะเชื้อไวรัสไม่ยอมหยุดทำงานด้วย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบคนในวันนี้ตัวเลขเพิ่มอาจจะอยู่เพียงวันละ 30 -40 คนในช่วงนี้ แต่สัปดาห์หน้าเมื่อตัวเลขผู้ป่วยใหม่ไปอยู่ที่หมื่นห้าอย่างที่เป็นอยู่วันนี้แล้ว เราคงหนีไม่พ้นที่จะต้องรับผู้ป่วยเข้าระบบอีกไม่น้อยกว่าร้อยคนต่อวันแน่

วันหยุดยาวสองสามวันนี้ยังคงเป็นการซ้อมใหญ่ของระบบ “เตียงทิพย์” อยู่เลย พวกเราคงจะเผชิญกับวิกฤติของจำนวนผู้ป่วยจริงๆ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปแน่นอนละ เอาเถอะ เรารู้อยู่แต่ต้นแล้วว่าเรากำลังจะเจอกับอะไร ขอให้พวกเราสามารถประคองสถานการณ์ไปให้ได้สักหนึ่งหรือสองอาทิตย์โดยระบบไม่ล่มสลายไปทันทีท่ามกลางคลื่นผู้ป่วยที่กำลังจะถาโถมเข้ามา เท่านี้ เราก็จะถือว่าความพยายาม “ช่วยชาติ” ของพวกเราในเรื่องนี้ไม่สูญเปล่าแล้วละ

เราตัดสินใจกันเรื่องศูนย์รับวัคซีนแล้วนะ ว่าตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.เป็นต้นไป เราจะเปิดศูนย์ฉีด Astrazeneca ไปตลอดโดยไม่มีวันหยุดจนหมดเดือนสิงหาคม ปรับกระบวนการใหม่ และจะนัดฉีดไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 คน วันพรุ่งนี้เราจะ upload รายชื่อผู้ที่จองวัคซีนกับเราที่เหลืออยู่ราว 90,000 คนเข้าไปในคิวจองทั้งหมด เพื่อทุกคนจะได้ทราบกำหนดวันที่ตัวเองมีคิวที่จะต้องมาฉีด และจะได้เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้แต่เนิ่นๆ

ทว่า เรามีวัคซีนที่มาอยู่ในมือแล้วเพียงพอจนถึงประมาณวันที่ 10 ส.ค.เท่านั้นนะ แต่เราก็เชื่อ ตามที่รัฐบาลและ สธ. รวมไปถึงบริษัทที่ขายวัคซีนให้เราออกมายืนยันหลายครั้งในช่วงสัปดาห์นี้นะ ที่ว่า สิ้นเดือนนี้วัคซีน AZ จะมาเพิ่มอีกมากเพียงพอ และเราคงจะได้รับวัคซีนสำหรับมาฉีดให้อีกประมาณ 60,000 คนที่เหลือในเดือนหน้าอย่างครบถ้วนด้วย

ถ้าควบคุมการระบาดไม่ได้ ลดจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันไม่ได้ ก็ขอให้ใช้วิธีการฉีดวัคซีนให้ผู้คนมากที่สุดและเร็วที่สุดนี้เท่านั้น ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบร้ายแรงจากการมีผู้ป่วยจำนวนมหาศาลที่อาการหนักหลั่งไหลเข้ามาที่โรงพยาบาลได้บ้าง และช่วยลดจำนวนคนตายลงได้บ้าง

ความหวังในการชนะสงครามคราวนี้ของพวกเราไม่มีแล้ว ขอแต่เพียงอย่าให้พวกเราแพ้เร็วเกินไปเท่านั้น ช่วยส่งวัคซีนมาให้พวกเราให้มาก และให้เร็วที่สุดเลย ขอร้องเถอะนะ

ที่จริง เรามีกำหนดจะเปิดฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 แล้วแหละ เพื่อเป็นกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง เดิมเราได้ตกลงกันกับกลุ่ม ปตท. ว่าทาง ปตท.จะจัดวัคซีนอีกชนิดหนึ่งจากจีนที่ได้จองซื้อไว้กับหน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งมาให้ธรรมศาสตร์ฉีดให้กับ พระภิกษุสงฆ์ แม่ชี ผู้สอนศาสนา และผู้ด้อยโอกาสที่เข้าไม่ถึงวัคซีน ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. โดยขอให้ทางจังหวัดปทุมธานีรับผิดชอบไปจัดทำบัญชีรายชื่อผู้รับวัคซีนมาให้ แต่การประสานงานกับหน่วยงานที่เป็นผู้นำวัคซีนเข้ามามีขั้นตอนมากมายที่ยุ่งยากมาก กว่าระบบราชการปกติด้วยซ้ำจนในที่สุดเราก็ต้องถอดใจ และขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแล้ว

พวกเราตัดสินใจกันว่า จะจัดกิจกรรมฉีดวัคซีนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสำหรับผู้ที่ขาดโอกาสเข้าถึงวัคซีนจำนวน 2,500 คนในวันที่ 28 ก.ค.ต่อไปตามเดิม แต่จะเปลี่ยนชนิดวัคซีน โดยจะฉีดเข็มที่ 1 จะเป็นซิโนแวค และเข็มที่ 2 ในอีก 3-4 สัปดาห์ต่อมาจะเป็น Astrazeneca ทั้งหมดนี้จะดำเนินการที่ศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต ที่ยิม 4 ทั้งหมด

วันหยุดยาวที่ไวรัสไม่หยุดระบาด บุคลากรทางการแพทย์ก็หยุดไม่ได้ด้วยเช่นกัน ไม่เป็นไรหรอกนะ พวกเราลืมไปแล้วล่ะ ว่ารบอยู่ในสงครามนี้มานานเท่าไหร่แล้ว.. แต่ถ้าผู้คนยังคงเจ็บป่วย ล้มตายและต้องการความช่วยเหลือ พวกเราทุกทุกคนก็พร้อมที่จะยืนอยู่ และสู้ต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ จนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง..# รักเธอ ประเทศไทย??”

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์