เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ร.ต.อ.ชัยยา ปัตนาตา รองสารวัตรปราบปราม สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนร้ายใช้มีด บุกเข้าไปชิงเอาช้างของชาวบ้าน ที่บ้านสำโรงพัฒนา ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายไพรวัลย์ หรือ แบงค์ สมเลียน อายุ 30 ปี กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้ามาลิโอ้ ช้างเพศผู้ อายุ 13 ปี อยู่ที่บ้านของตัวเอง และยอมรับว่าเป็นคนจูงช้างมาจากบ้านของ นายขวัญชัย สมเลียน อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 172 หมู่ 3 ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นพี่ชายของตัวเอง สาเหตุที่ไปจูงเอามาเพราะเจ้ามาลิโอ้ เป็นช้างมรดกของครอบครัว ต้องการเอามาต่อรอง เพื่อขายแล้วเอาเงินมาแบ่งกันพี่น้อง 3 คน คนละเท่าๆกัน หรือแบ่งกันเลี้ยงคนละกี่เดือนในช่วง 1 ปี แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของนายแบงค์ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากแม่นายแบงค์ว่า ช้างเชือกดังกล่าวเป็นของพี่ชายนายแบงค์ แล้วถูกชิงมา เพราะมีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

โดยนายแบงค์ ให้การรับสารภาพว่า”เสพยาเสพติดจริง”ส่วนช้างยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินมรดกของ ครอบครัว เมื่อไปขอดีๆไม่ได้จึงไปจูงมาเพื่อเป็นการต่อรองกับครอบครัว

ด้าน นายขวัญชัย สมเลียน เจ้าของช้างเล่าว่า แม่ซื้อช้างให้ลูกคนละตัว น้องชายคือ นายแบงค์ ได้ไป 1 ตัว แล้วเอาไปเลี้ยงกับภรรยาต่างจังหวัด จากนั้นได้เลิกกับภรรยา โดยนายแบงค์ยกช้างของตัวเองให้กับภรรยา ทำให้น้องชายไม่มีช้างเลี้ยง หันไปเสพยาบ้าจนติดงอมแงม มาขอเงินพ่อแม่ไปซื้อยาบ้าเป็นประจำ ถ้าไม่ได้มักจะทำลายข้าวของ สุดท้ายมาขอช้างของตัวเองกับแม่ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะแม่ได้แบ่งช้างไปให้แล้วคนละตัว กระทั่งน้องชายใช้มีดบุกเข้าไปชิงกับควาญช้าง ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้อยู่บ้าน

นางสมควร สมเลียน อายุ 52 ปี แม่นายแบงค์ บอกว่าซื้อข้างมา 2 ตัว ตัวละ กว่า 900,000 บาท แบ่งให้แบงค์ 1 เชือก อีกเชือกให้นายขวัญชัย กับน้องสาว แต่แบงค์รักษาช้างไว้ไม่ได้ แต่กลับมาจะขอช้างอีก จึงไม่ได้กระทั่งมาชิงเอาดังกล่าว สาเหตุคาดว่าลูกชายน่าจะอยากได้ช้างเอาไปขาย แล้วเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ เพราะช่วงหลังติดงอมแงม ตอนนี้ได้แจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว ทั้งหมดจะให้ตำรวจเป็นคนเจรจาร่วมกัน

อย่างไรก็ตามต่อมา นางสมควร และนายขวัญชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความและยืนยันให้เอาผิดกับนายแบงค์ฐานลักทรัพย์ ต่อ
พ.ต.ท.ชาญชัย คำดีเกิด สารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและจะส่งฟ้องศาลในวันที่ 8 เม.ย.