เมื่อวันที่ 9 เม.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายจุฑานนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ จ.32/2565 ลง 28 มี.ค.65 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ที่บริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซอยรามคำแหง 39 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. และนายนัทธิ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ตามหมายจับ
ศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ จ.33/2565 ลง 28 มี.ค.65 ในข้อหาเดียวกัน ได้ตัวที่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ถนนเอกชัย แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค.65 กลุ่มผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไปห้องวิทยุ สภ.เซกา โดยอ้างตนว่าเป็น รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ขอสอบถามรายละเอียดของผู้ถูกควบคุมคดีครอบครองยาเสพติดที่อยู่ในความควบคุม สภ.เซกา จากนั้นได้อ้างตำแหน่งพร้อมกับจี้สอบถามเบอร์โทรศัพท์ญาติของผู้ถูกควบคุม หลังจากที่กลุ่มผู้ต้องหาได้เบอร์โทรศัพท์ญาติของผู้ถูกควบคุมไปแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาได้โทรหลอกลวงโดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีให้จบที่โรงพักได้ โดยไม่ต้องไปถึงชั้นศาล เมื่อได้ยินดังนั้นญาติผู้ถูกต้องขังจึงยอมโอนเงิน 50,000 บาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา

แต่หลังจากที่โอนเงินไปแล้ว ญาติผู้ถูกคุมขังไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ และผู้ถูกคุมขังยังถูกดำเนินคดีตามปกติ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงสูญเสียเงินจำนวนดังกล่าว และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหากระทั่งมีขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าตนเองเป็นธุระจัดหาเปิดบัญชีให้กลุ่มผู้กระทำความผิดจริง และได้ค่าจ้างเปิดบัญชีหรือจัดหาได้บัญชีละ 2,500 ถึง 5,000 บาท โดยยังมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังอีกหลายคน แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดบ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลการจับกุมเพิ่มเติมในกลุ่มกระบวนการที่เหลือต่อไป

จากการตรวจสอบก่อนการถูกจับกุมทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ก่อเหตุในลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ และถูกพนักงานสอบสวน สภ.เซกา จ.บึงกาฬ, สภ.สารภี จว.เชียงใหม่ , สน.ปทุมวัน ออกหมายเรียกเพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงกว่า 10 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่าล้านบาท