สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่า สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของเมียนมา ออกแถลงการณ์ว่า กองทัพเมียนมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหม่ในรัฐกะเหรี่ยง ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกับที่การสู้รบภาคพื้นดินระลอกใหม่ ปะทุที่หมู่บ้านเลเก่ก่อ ในเขตเมียวดี อยู่ห่างจากชายแดนไทยเพียง 20 กิโลเมตร


ทั้งนี้ หมู่บ้านเลเก่ก่อ ซึ่งมีความสำคัญด้วยในเชิงยุทธศาสตร์ทหาร อยู่ภายใต้อิทธิพลของเคเอ็นยูมานานหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม กองทัพเมียนมากลับเข้ามาปิดล้อมพื้นที่อีกครั้ง เมื่อไม่นานมานี้ และยกระดับมาตรการกดดันต่อเคเอ็นยู ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ออกมาเรียกร้องความสนับสนุนจากประชาคมโลก ให้มีการกำหนด “เขตห้ามบิน” ตามแนวพรมแดนทางตะวันออกของเมียนมา ซึ่งติดกับภูมิภาคบางส่วนของไทย

ผู้อพยพชาวเมียนมาจากรัฐกะเหรี่ยง ตั้งค่ายที่พักชั่วคราว ภายในพื้นที่ซึ่งมีการกั้นเขตไว้ ริมชายฝั่งแม่น้ำเมย ในอำเภอแม่สอด จังหวัดเชียงราย


เคเอ็นยูอ้างว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา ไม่ได้มุ่งเฉพาะเป้าหมายทางทหาร แต่ยังโจมตีสถานที่ซึ่งในทางสงครามเรียกว่า “เป้าหมายอ่อน” เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนที่อยู่อาศัยของพลเรือน


อย่างไรก็ตาม การกำหนดเขตห้ามบินด้วยเหตุผลทางยุทธวิธี “ให้มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ” ต้องประกาศโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เท่านั้น


อนึ่ง รัฐกะเหรี่ยง เป็นสมรภูมิดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ซึ่งทุกครั้งที่การสู้รบในบริเวณนี้เกิดขึ้น ประชาชนจำนวนมากจะอพยพข้ามพรมแดนธรรมชาติ มาขอหลบภัยในฝั่งไทยเป็นการชั่วคราว.

เครดิตภาพ : REUTERS, GETTY IMAGES