สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่าการทดลองใช้บอลลูนอวกาศบริเวณอวกาศใกล้โลก ซึ่งออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนนั้น ได้ช่วยปูทางให้แก่การวิจัยเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลก


นับตั้งแต่ปี 2562 นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ของจีน ได้ส่งบอลลูนที่พวกเขาออกแบบ เพื่อทดลองด้านการเฝ้าระวังทางชีวภาพ (biological exposure) ขึ้นไปยังอวกาศใกล้โลก จากเขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือ และมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นจำนวน 4 ครั้ง


นักวิทยาศาสตร์พบว่า มีส่วนหนึ่งของแบคทีเรียกลุ่มแมกนีโตแท็กติก (magnetotactic bacteria) ชนิดหนึ่ง ที่สามารถเอาชีวิตรอดได้ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว ที่ระดับความสูงประมาณ 23 กิโลเมตร เหนือระดับน้ำทะเล


ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารไซเอนซ์ บูลเลติน (Science Bulletin) ระบุว่า แบคทีเรียแมกนีโตแท็กติกดังกล่าว สังเคราะห์อนุภาคนาโนของสารประกอบไอเอิร์นออกไซด์ (iron oxides) ที่เรียกว่าแมกนีโตโซม (magnetosomes) ออกมา ซึ่งแมกนีโตโซมนี้ถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุชีวภาพ ซึ่งถูกใช้เป็นเหมือนเข็มทิศเพื่อนำทางไปยังสนามแม่เหล็กของโลก ส่วนแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ไม่ใช่แม่เหล็ก (nonmagnetic) ชนิดอื่น ๆ ล้วนตายในการทดลองนี้


อวกาศใกล้โลก หมายถึงบรรยากาศที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลระหว่าง 20-100 กิโลเมตร มีลักษณะของการแผ่รังสีสูง ความกดอากาศต่ำ มีความหนาวเย็นและแห้งมาก คล้ายกับพื้นผิวของดาวอังคารในระดับหนึ่ง


การวิเคราะห์เพิ่มเติมพบว่าขนาด คุณสมบัติทางแม่เหล็ก และปริมาณแมกนีโตโซมของสิ่งมีชีวิตที่รอดตายนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นไปเพื่อปกป้องพวกมันจากอันตราย ที่มาจากรังสีในระดับสูง


นักวิจัยคาดการณ์ว่า กระบวนการปล่อยสารอย่างช้า ๆ (mineralization) ภายในเซลล์แบคทีเรีย อาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การอยู่รอดของแบคทีเรียบนดาวอังคาร นอกจากนี้ การสำรวจว่าสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่รอดบนดาวอังคารได้หรือไม่นั้น ช่วยให้เราเข้าใจกลยุทธ์การเอาชีวิตรอด ที่อาจเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ตลอดจนระบบขนส่งมนุษย์ระหว่างดวงดาว

นอกจากนี้ บอลลูนดังกล่าวยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ตรวจสอบสิ่งมีชีวิตจากแหล่งกำเนิด ในชั้นบรรยากาศของดาวศุกร์ในอนาคตได้ด้วย.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA