พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ศอ.บต. ได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูก ฟักทอง, ฟักเขียว, พริกเขียวมัน ที่ได้รับความเดือดร้อน ใน จ.สงขลา และพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่สามารถขายผลผลิตสู่ตลาดได้ เนื่องจากปัญหาของ “โควิด-19” ที่ทำให้พ่อค้าไม่เดินทางมารับซื้อถึงในสวน และการปิดตลาด ปิดร้านค้า เพื่อหยุดการระบาดของเจ้าหน้าที่รัฐ โดย ศอ.บต.นำผลผลิตที่ซื้อมาจากเกษตรกรไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ระบาดของ “โควิด-19” และถูกปิดหมู่บ้าน ตำบล และประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนกลุ่มต่างๆ จนสามารถแก้ปัญหาลุล่วงไปได้

และขณะนี้ เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เริ่มจะได้รับความเดือดร้อน จากการที่ผลผลิตทุเรียนเริ่มออกสู่ตลาด แต่จากปัญหาของ “โควิด-19” และการ “ล็อกดาวน์” พื้นที่ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ พ่อค้าต่างถิ่น และ “ล้ง” ที่มารับซื้อทุเรียนในพื้นที่ ไม่สามารถเดินทางมาได้ ทำเกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียนขายผลผลิตในราคาที่ถูกกว่าปีก่อนๆ และเริ่มวิตกกังวล เพราะทุเรียนในพื้นที่กำลังจะออกสู่ตลาดมากขึ้น

ศอ.บต. จึงได้เตรียมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานการเกษตร, พาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อรองรับผลผลิตที่กำลังออกสู่ท้องตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนทุเรียน ให้สามารถขายได้ในราคาปกติ และไม่ถูกกดราคาจากพ่อค้าที่เป็นผู้รับซื้อ สำหรับทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ใน 2 ปีที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายในราคาที่สูง เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปทุเรียน บริษัทม่านกู่หว่านฟู้ด จำกัด ซึ่งตั้งใน อ.เทพา จ.สงขลา ได้รับซื้อเพื่อทุเรียนแช่แข็งส่งออกไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในปีนี้ ผู้แทนของบริษัท ได้รับปากกับ ศอ.บต. ที่จะรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรเจ้าของสวนให้มากกว่าเดิม เพื่อทดแทนการที่พ่อค้าจากต่างถิ่นไม่สามารถเข้ามารับซื้อได้อย่างปกติ เชื่อว่าสถานการณ์ของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนใน จชต. ไม่เลวร้าย แต่อาจจะมีปัญหาบ้าง เพราะความไม่สะดวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก “โควิด-19” ที่เกิดขึ้น