กรณีเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และสยามรวมใจ ถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงกันเป็นเหตุให้นายชุษณะ โชติพรม อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ใกล้สามแยกเกษมราษฎร์ ถนนพระราม 4 เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาสาสยามรวมใจ โดยมีการเข้ามอบตัวแล้วบางส่วน ตามที่ได้เสอนข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
กู้ภัยเข้ามอบตัวอีก 3ราย หลังร่วมก่อเหตุจนทำให้มีผู้ถึงแก่ความตาย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนของ กก.สส.บก.น.5, สน.ทองหล่อ และกก.3 บก.สืบสวนสอบสวน บช.น. ตามจับกุมและกดดันจนยอมมอบตัวครบแล้วทั้ง 9 คน คือ นายธีระชัย บัวผันสระน้อย อายุ 41 ปี นายปรีชา จันทร์แสง อายุ 27 ปี นายวีระศักดิ์ วงษ์ศรี อายุ 20 ปี นายคุณากร ขวานทอง อายุ 25 ปี นายจิรวัฒน์ หรือเบียร์ บรรเจิดวัฒนกุล อายุ 48 นายกฤษฎา หรือ โจ๊ก น้อยศิริสุข อายุ 42 ปี นายฤทธิรุทร หรือ บอม มูลทองชุน อายุ 29 ปี และล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ชุดสืบสวนจับกุมตัวนายพัทธนันท์ ชาติไทย อายุ 39 ปี ได้ที่บ้านพัก ซอยสุขุมวิท 70 และนายจักรกฤษณ์ ดวงรัตน์มาลี อายุ 32 ปี ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อได้ผู้ต้องหาครบทั้ง 9 คนแล้ว ทางตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลเพื่อหาตัวคนลงมือยิงในเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นใคร เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ให้การรับเพียงว่า อยู่ในเหตุการณ์คืนวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่มีใครพูดถึงกรณีใช้อาวุธปืนยิงใส่ฝ่ายคู่กรณีแต่อย่างใด เบื้องต้นประสาน เจ้าหน้าที่สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ กองพิสูจน์หลักฐาน สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เดินทางมาทำการเก็บคราบเขม่าดินปืน จากนายพัทธนันท์ และนายจักรกฤษณ์ 2 อาสามูลนิธิสยามรวมใจ ที่ถูกจับกุมและมอบตัวเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ส่วนของการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 9 คน ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว ต่อจากนี้จะทำการขยายผลหามือปืนที่ยิง ขณะนี้ทั้ง 9 คน ยังไม่รับสารภาพในประเด็นนี้ ส่วนของพนักงานสอบสวนได้มีการสั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการยื่นต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ของทางฝั่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในข้อหาเดียวกัน คือ ร่วมกันมั่วสุมโดยมีอาวุธ แต่ในฝั่งของทางป่อเต็กตึ๊ง จะต้องมีการแจ้งข้อหาตามความผิด พระราชบัญญัติจราจร เกี่ยวกับการกีดขวางเส้นทาง เพราะในวันเกิดเหตุมีการปิดช่องการเดินรถจราจรนานหลายชั่วโมง ถือเป็นความผิดที่ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะทางตำรวจได้มีการพยายามเจรจาให้เปิดการจราจรหลายครั้ง