จากกรณีที่มีผู้เสียหายรายหนึ่ง เป็นสาวประเภทสอง ถูกคนร้ายเป็นชายบุกเข้าไปภายในห้องนอนตอนตีสามของวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าไปใช้มีดจี้คอผู้เสียหายหวังข่มขืนแต่ผู้เสียหายประครองสติออกกลอุบายขอไปหยิบถุงยาง ก่อนอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีออกมาจากห้องจนพลัดตกบันไดได้รับบาดเจ็บ จากตรวจสอบพบว่าคนร้ายปีนขึ้นทางระเบียงของหอพักชั้นสองแล้วเข้าทางประตูบานเลื่อนที่ระเบียงไปก่อเหตุ โดยคนร้ายจะหลบมุมกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว

หลังผ่านไปเพียง 3 วันทาง ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายบุกเข้าห้องพัก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันเข้าไปพยายามก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว ก่อนหลบไป และต่อมาวันที่ 18 เม.ย. ล่าสุดคนร้ายซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นรายเดียวกันได้เข้าไป ก่อเหตุในห้องพักของผู้เสียหายอีกรายซึ่งเป็นหญิงสาว และผู้ก่อเหตุได้บังคับขืนใจเหยื่อจนสำเร็จความใคร่ และชิงทรัพย์หลบหนีไป โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.บางพลี ระดมชุดสืบสวนล่าตัวมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 3 วัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นภัยต่อสังคม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พ.ต.ท.พรชัย เทแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี พร้อม พ.ต.ท.พิศาล กล่ำไพ สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่แกะลอยคนร้ายตามเส้นทางต่างๆ จนพบเบาะแสคนร้ายรายนี้ตามวงจรปิดริมถนนเทพรัตน ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทำให้ทราบตัวคนร้ายรายนี้ ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในละแวกที่เกิดเหตุ ก่อนพบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่ห้องเพื่อนย่านบางเขน กรุงเทพฯ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว ทราบชื่อต่อมาคือ นายนเรศ หรือแบงก์ มันตพง อายุ 35 ปี ชาว จ.ขอนแก่น จึงควบคุมตัวพร้อมกับของกลาง เป็นเสื้อผ้า รองเท้า ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และมีดปอกผลไม้ 2 เล่มที่ใช้จี้คอเหยื่อ มาทำการสวบสวนที่ สภ.บางพลี

พ.ต.อ.วิโรจน์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้จากการสอบสวนทราบว่าเพิ่งพ้นโทษในคดีจี้ชิงทรัพย์และข่มขืนเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมาสมัครทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งได้เพียงสามเดือน แล้วย้อนกลับมาตระเวนก่อเหตุดังกล่าวอีก โดยครั้งแรกก่อเหตุเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่หอพักในซอยวัดศรีวารีน้อย โดยใช้มีดจี้คอและพยายามข่มขืนเหยื่อ แต่เหยื่อร้องโวยวายและวิ่งหนีได้ทันคนร้ายจึงได้เงินสดไป 1,000 บาท ส่วนครั้งที่สองก่อเหตุวันที่ 11 เม.ย. ผู้เสียหายเป็นสาวประเภทสอง ในลักษณะเดียวกัน ได้เงินสดไป 200 บาท และครั้งที่สามวันที่ 14 เม.ย. ด้วยการใช้มีดจี้คอและพยายามข่มขืน แต่เหยื่อขัดขืนจึงใช้มีดจี้ข่มขู่และขอสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองต่อหน้าเหยื่อ และชิงเงินสด 4,000 บาท หลบหนีไป

‘สาวสอง’ ไหวพริบดี! คนร้ายงัดห้องหวังข่มขืน ออกอุบายหาถุงยาง รอดหวุดหวิด

ครั้งล่าสุดวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เป็นจังหวะที่หญิงสาวผู้เสียหายกำลังอาบน้ำอยู่คนร้ายรอจังหวะที่ผู้เสียหายออกมาจากห้องน้ำจึงใช้มีดจี้บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และชิงเอาสร้อยคอสองสลึงของเหยื่อไป ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าจะออกดูตามหอพักและสังเกตเหยื่อก่อน โดยเลือกหอพักที่มีการติดตั้งเหล็กดัดเพียงชั้นแรก แล้วมองหาเหยื่อที่ตากเสื้อผ้าที่ระเบียงไว้ พอมั่นใจว่าเหยื่อเป็นหญิงสาวพักอยู่คนเดียว ก็จะเลือกช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนปีนระเบียงขึ้นไปที่ห้องพักของผู้เสียหาย อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอลืมล็อกประตูบานเลื่อนกระจกเปิดประตูเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธมีด และข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.